วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เตรียมตัวสอบปฏิบัติเวชฯ

ถึงเพื่อนๆนักเรียน นักศึกษาแพทย์แผนไทยทุกท่าน
สรุป วิธีที่จะต้องเตรียมตัวสอบปฏิบัติเวชกรรมไทย (แบบใหม่ล่าสุด สดๆร้อนๆ)
1.       ให้แยกอาการโรคแล้วมานั่งทำ case ว่า ถ้าอาการมาแบบนี้มาจะซักประวัติอย่างไรให้ตรงประเด็น
2.       และหาวิธีการตรวจที่เหมาะสมในแต่ละอาการโรค
3.       หลังจากซักประวัติและทำการตรวจแล้ว ก็ต้องวินิจฉัยให้ได้ว่าป่วยเป็นอะไร เกิดจากสมุฏฐานใด กำเริบ หย่อนหรือพิการ(บอกชื่อโรคหรืออาการไม่ปกติของธาตุ)
4.       ขั้นตอนสุดท้าย จะทำการรักษาอย่างไรในอาการโรคนั้นๆ เช่น ให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อโรค หรือจ่ายยา หรือต้องใช้เวชชะปฏิบัติของแผนไทยเช่น นวด ประคบ อบ รมยา เผายาฯลฯ หรือต้องทำครบทุกอย่าง  อย่างเป็นขั้นเป็นตอน หรือต้องส่งต่อคนไข้ เป็นต้น
โอ้โห ทำไมมันเยอะมากมายขนาดนี้ เฉพาะโรคในคัมภีร์มันก็มหาศาล ยังดีนะที่เรามีตรีธาตุสมุฏฐานมาให้เป็นกรอบ เพราะในแต่ละโรคมันก็หนีไม่พ้น ปิตตะ วาตะ เสมหะ (ตรีธาตุ) ที่มันเสียสมดุลทำให้เกิดโทษ กำเริบ หย่อน หรือพิการ นั่นเอง มิเช่นนั้นหมอต้องตายแน่ๆ ฝากไว้ให้กับรุ่นน้อง เริ่มฝึกทำ case กันตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่จะสาย เพราะในการสอบ ทุกคนต้อง อ่านเร็ว คิดเร็ว เขียนเร็ว ในเวลาที่จำกัด (ภาวะบีบคั้น) ถ้าผิดแล้วผิดเลยไม่มีการแก้ใหม่ ขอย้ำหมอทุกคนต้องมีศิลปะในการนำมาใช้ ไม่มีอะไรตายตัวในแต่ละบุคคล เพราะเหตุปัจจจัยที่เกิดโรคต่างกัน ธาตุเจ้าเรือนต่างกัน พฤติกรรมต่างกัน ถิ่นที่อยู่ต่างกัน ฯลฯ ควรพิจารณาให้รอบครอบอย่างมีศิลปะ เพราะเราคือ ผู้ประกอบโรคศิลปะค่ะ
ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบครั้งต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

จากรุ่นพี่ (เลขาธิการสมาคมเภสัชและอายุเวชโบราณแห่งประเทศไทย)

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ว่าด้วยปะระเมหะ



ปะระเมหะ  แปลว่า เสมหะที่แข็งตัวอย่างยิ่ง คือ ...เสมหะที่ตกตะกอนนอนก้น กำลังเปลี่ยนจากธาตุน้ำเป็นธาตุดิน ปะระเมหะเกิดขึ้นได้หลายแห่งในร่างกาย เช่น ไต. ถุงน้ำดี .กระดูกงอก .ในเต้านมที่มีเส้นเลือดมากมายไหลผ่านเต้านมเหมือนใยบวบหากเส้นเลือดอุดตันจากไขมันหรือเสมหะ(ปะระเมหะ) ก้อนแข็งบนเต้านมก็จะเกิดขึ้น  หรือปัญหาที่กระดูกคองอก และไหล่ติดยกแขนไม่ได้, หัวใจ, ตับฯลฯ ในทุกที่ที่มีน้ำเลือดโลหิตไหลผ่าน มีน้ำเมือกหรือเสมหะกระทำให้ชุ่มแช่ และต้องประกอบกับการติดขัดของวาตะ(ธาตุลม)ในร่างกาย(ทำให้การขับเคลื่อนของธาตุติดขัด)เสมหะเป็นธาตุน้ำจะตกตะกอนเหือดแห้งไปเพราะปิตตะ(ธาตุไฟ) เผาให้เสมหะแห้งไป ปิตตะเผาเสมหะโลหิตแห้งวะตะไม่ขับเคลื่อนทำให้ของเสียตกตะกอน(เสมหะที่ข้นแข็ง)
(อ.มนาวุธ  ผุดผาด หมอพื้นบ้าน)
"ยารักษากระดูกงอก".. เป็นอันตรายต่อร่างกายหากไปกดทับเส้นประสาท........ยารักษา...ประกอบด้วย.....ลูกจันทน์ หนึ่งบาท....ดอกจันทน์ หนึ่งบาท...ลูกกระวาน หนึ่งบาท...ดอกกานพลู หนึ่งบาท...มหาหิงคุ์ สี่บาท...ยาดำ สี่บาท...การบูร สี่บาท...พริกไทยล่อน(แก่ๆ) สิบหกบาท...บดผงละเอียด ใส่โหลแก้วเก็บไว้....นำฝักมะรุมมาต้มใส่น้ำสามส่วนเคี่ยวเหลือหนึ่งส่วน(น้ำกระสายยา ให้ยาดีแล่นเร็วเพิ่มประสิทธิภาพยาฯลฯ)...วิธีการใช้ยา....ตักยาหนึ่งช้อนกาแฟ ผสมน้ำกระสายสามสิบมิลลิลิตร กินก่อนอาหารสามเวลาและก่อนนอนด้วย...รวมเป็นสี่เวลา...งดอาหารแสลง..กินน้ำอุ่นๆ..ห้ามกินน้ำเย็น..ยานี้กินคู่กับยาปรับธาตุ 
ขอบคุณข้อมูลจาก พท.อส.

ข้อสอบกฎหมาย24/8/57

ข้อสอบกฎหมาย มีทั้งหมด 30 ข้อ จาก 200 ข้อ ของข้อสอบเวชกรรมไทย1-2 สอบเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2557 สถานที่สอบ ม.ธรรมศาสตร์รังสิต

ข้อ 1.     ในกรณีผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์  เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ของผู้อนุญาตแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่อใบอนุญาติ

ก.       7 วัน

ข.       15 วัน

ค.       25 วัน

ง.       30 วัน

จ.       45 วัน

ข้อ 2.    ผู้ใดดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 24 วรรคหนึ่งมีโทษประการใด
               1.   จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
               2.   จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
               3.   จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
               4.   จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                5.  ปรับไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาท
ข้อ 3. กรณีที่สถานประกอบการที่จดทะเบียน และมีเตียงคนไข้จำนวน 10 เตียง ต้องมีหมอจำนวนกี่คน
ก.       1 คน
ข.       2 คน
ค.       3 คน
ง.       4 คน
จ.       5 คน
ข้อ 4. นาย......จะเปิดร้านขายยาแผนโบราณที่จังหวัดพิจิตร ต้องไปยื่นขอใบอนุญาติที่ใด?
ก.       สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข.       สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
ค.       กองประกอบโรคศิลปะ
ง.       กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี
จ.       กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย
ข้อ 5.     คำว่า ผู้อนุญาต ในพระราชบัญญัติวิชาชีพ พ.ศ.2556 หมายความถึงผู้ใด?
                 .   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
                 .   ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ
                  .   ปลัดกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ปลัดมอบหมาย
                  ง.   อธิบดีกรมการแพทย์
                  จ.    อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ข้อ 6.   ถ้าผู้รับอนุญาตตายและมีบุคคลแสดงความจำนงเพื่อขอประกอบกิจการต่อ ต้องแสดงความจำนงต่อผู้อนุญาตภายในกี่วัน นับตั้งแต่ วันที่  ผู้รับอนุญาตตาย
                 .   ภายใน 7 วัน
                 .   ภายใน 15 วัน
                 .   ภายใน 30 วัน
                 .   ภายใน 25  วัน
                  จ.  ภายใน 60 วัน
ข้อ 7.   ผู้ใดที่ไม่ใช่ คณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย ที่เป็นกรรมการโดยตําแหน่ง
ก.       เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
ข.       อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ค.       อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
ง.       เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
จ.       อธิบดีกรมการแพทย์
ข้อ 8.  พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556 ใช้บังคับเมื่อใด
                .   ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2556 เป็นต้นไป
                ข.    ตั้งแต่วันที่  2  กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป
                .   ตั้งแต่วันที่  1  กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป
                .   ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2556 เป็นต้นไป
                .   ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป
ข้อ 9. ตามพรบ.วิชาชีพการแพทย์แผนไทย ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้ประกาศใช้เป็น
ก.       กฏกระทรวง
ข.       พระราชบัญญัติ
ค.       ข้อบังคับ
ง.       พระราชกฤษฏีกา
จ.        
ข้อ 10. ผู้ใดขาย ผลิต นำเข้ายาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษประการใด
ก.       จำคุกไม่เกิน หนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข.       จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค.       จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง.       จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จ.       จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อ 11.     คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นสมาชิกสภาแพทย์แผนไทย ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ก.       อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี บริบูรณ์
ข.       ต้องอยู่ในประเทศไทย
ค.       ต้องเป็นคนสัญชาติไทย
ง.       ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
จ.       ต้องไม่เป็นคนวิกลจริต
ข้อ 12.     นายสมศักดิ์ขึ้นทะเบียนตำรับยาเม็ดลูกกลอนยาแผนโบราณไว้ตำรับหนึ่ง โดยระบุว่ามีน้ำหนักเม็ดละ 1 กรัม ต่อมาต้องการลดต้นทุน จึงเปลี่ยนทำน้ำหนักเม็ดยาเป็นเม็ดละ 0.8 กรัม ออกขายโดยไม่ได้แจ้งขอแก้ไขทะเบียนตำรับยา กรณีนี้ นายสมศักดิ์มีความผิดตามกฎหมาย ยาหรือไม่ อย่างไร
                 .   ไม่เป็นความผิด เพราะไม่ได้แก้ไขสูตรยา
                 .   เป็น ความผิดฐานทำยาปลอม
                 .   เป็น ความผิดฐานทำยาผิดมาตรฐาน
                 .   เป็น ความผิดฐานทำยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
        จ.  เป็น
ข้อ 13. ผู้ใดขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษประการใด
ก.       จำคุกไม่เกิน หนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข.       จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค.       จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง.       จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จ.       จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข้อ 14.   เมื่อคณะกรรมการได้รับสำนวนการสอบสวนและความเห็นของคณะอนุกรรมการสอบสวนและมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดอย่างใด ตาม ม. 45  (ข้อนี้จำไม่ค่อยได้ค่ะเรียบเรียงยังไม่ค่อยถูก)
             ก. พักใช้ใบอนุญาต
             ข. เพิกถอนใบอนุญาต
             ค. ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ
             ง. ว่ากล่าวตักเตือน
             จ. ภาคทัณฑ์
ข้อ 15. ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้เลือกกรรมการตามมาตรา ๑๕ () () () และเลือกตั้งกรรมการตามมาตรา ๑๕ () ให้ใครดำรงตำแหน่งเป็นนายกสภาแพทย์แผนไทย
ก.           รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
ข.           ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ค.           อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ง.           อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
จ.           เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อ 16. มติของที่ประชุมในกรณีให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ () ให้ถือคะแนนเสียง
ก.       ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการ
ข.       ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ
ค.       ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนกรรมการ
ง.       ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น
จ.       ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น
ข้อ 17.  เมื่อมีการกระทำความผิดตามมาตรา ๓๗ ของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยผู้กล่าวหาต้องทำเป็นหนังสือส่งถึงใคร
ก.       คณะกรรมการวิชาชีพ
ข.       อนุกรรมการสอบสวน
ค.       เลขาธิการ
ง.       สภาการแพทย์แผนไทย
จ.       อนุกรรมการจรรยาบรรณ
จำได้แค่นี้ค่ะ บางข้อยังไม่ค่อยชัดเจนกำลังทบทวนอยู่นะคะถ้าผิดก็บอกด้วย

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ข้อสอบเวชกรรม ปีการศึกษา 2555-2556(31มี.ค.56)
ชื่อ..........................นามสกุล................................ได้.....................คะแนน
จงวงกลมรอบคำตอบที่ถูกต้อง
1.ข้อใดถือว่าผิด จรรยาแพทย์                
ก.   กีดกันหมออื่นที่มีความรู้                             ข.   ไม่ละอายต่อบาป  (ต้องละอาย)
ค.   เผลอเรอและมักง่าย                                      ง.   ปิดบังความดีของผู้อื่น
2.             มีอาการหนังสากชาไปทั้งตัว แม้แมลงวันจะจับหรือไต่ที่ตัวก็ไม่รู้สึก ให้แสบร้อนเป็นกำลัง สาเหตุ
   ก.   เนื้อพิการ                                                       ข.  หนังพิการ
   ค.   ผมพิการ                                                          ง.   เอ็นพิการ
3.             อาการให้เมื่อยขบขัดทุกข้อทุกกระดูก ให้ยกมือยกเท้าไม่ไหว เจ็บปวดเป็นกำลังเป็นอาการของลม
    ก.   ลมอโธคมาวาตาพิการ                               ข.   ลมอุทธังคมาวาตาพิการ
    ค.   ลมกุจฉิสยาวาตาพิการ                               ง.   ลมโกฎฐาสยาวาตาพิการ
4.             คนไข้มีอาการ "ให้ลงท้อง ให้จุกเสียด ให้พะอืดพะอม ให้สะอึก"พิเคราะห์ว่าเป็นอะไร
     ก.   อันตังพิการ                                               ข.   อันตคุณังพิการ
     ค.   อุทริยังพิการ                                             ง.   กรีสังพิการ
5.             จำพวกสัตว์น้ำ มีสรรพคุณในการรักษานั้น ในข้อใดที่จะใช้รักษากระษัยปลาหมอ ดี แก้พยาธิกิน แก้ผมร่วงเป็นหย่อมๆช่วยให้ผมดำ
     ก.   ปลาช่อน                                                      ข.   ปลาหมอ
     ค.   ปลากระเบน                                                ง.   ปลาพยูน
6.             เตโชธาตุ 4 อย่าง อย่างไรที่ให้ มือเท้าเย็นและเหงื่อตกดังเม็ดข้าวโพด
   ก.   ปริณามัคคี                                                    ข.   ปริทัยหัคคี
    ค.   ชิรณัคคี                                                        ง.   สันตับปัคคี
7.             ถ้าผู้ป่วยมีอุจจาระสีดำเป็นเมือกมัน ท่านว่าไม่น่าจะเกิดโรคใด
 ก.   ไข้อติสาร                                                       ข.   ไข้รากสาด
  ค.   โรคซาง                                                        ง.   ไข้กาฬ
8.    ท่านเห็นว่ากองมหาภูตรูปใดผิด
 ก.   กองมหาภูติรูปดิน 20                                  ข.   กองมหาภูตรูปอากาศ 10
  ค.   กองมหาภูตรูปอาโป 12                             ง.   กองมหาภูตรูปวาโย 6
9.     ข้อใด คือความหมายของ ทวัตติงสาการ
ก.   อาการ   32 ของร่างกาย มีศีรษะเป็นต้น มีเท้าเป็นที่สุด
ข.  อาการ   32 ของร่างกาย มีสมองเป็นต้น มีหัวใจเป็นที่สุด
ค.   อาการ   32 ของร่างกาย มีผมเป็นต้น มีมันสมองเป็นที่สุด
ง.   อาการ 108 ของร่างกาย มีสมองเป็นต้น มีหัวใจเป็นที่สุด
10.ข้อใดคือตัวยาสำคัญที่มีปริมาณมากที่สุดในตำรับยาธาตุบรรจบ
ก.  เนื้อลูกสมอไทย                                                              ข.  ดอกจันทน์
ค.  กานพลู                                                                            ง.  เปลือกสมุลแว้ง
11.หากต้องการใช้ยาแสงหมึกฝนเพื่อแก้ปากเป็นแผล แก้ละออง ควรใช้น้ำกระสายยาในข้อใด
ก.  ละลายน้ำเปลือกมังคุด                                  ข.  ละลายน้ำลูกเบญกานี
ค. ละลายน้ำเปลือกนนทรี                                 ง.  ละลายน้ำอบเชยเทศ
12.หากใช้ไพลเผาไฟ พอสุก ฝนแทรก ในตำรับยาประสะกะเพรา สามารถแก้อาการใดได้
ก.  แก้อาการไข้ร้อนใน                                      ข.  แก้อาการฟกช้ำภายใน
ค.  แก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ                                       ง.  แก้ท้องแน่น จุกเสียด
13.การใช้ยาธาตุบรรจบ เพื่อบรรเทาอาการท้องขึ้น ท้องเฟ้อ ควรใช้สมุนไพรใดเป็นน้ำกระสายยา
ก. กระเทียม 3 กลีบ ทุบชงน้ำร้อน                    ข.  ใช้ใบโหระพาต้มเป็นน้ำกระสาย
ค.  ใช้กานพลูต้มเป็นน้ำกระสาย                      ง.  ใช้เปลือกแคต้มเป็นน้ำกระสายยา
14.  หากนางเอ มีอาการไข้ระหว่างมีประจำเดือน, ไข้ทับระดู ตำรับยาใดให้แก่ผู้ป่วยรายนี้
ก.  ยาแก้ไข้ห้าราก                                               ข. ยาจันทน์ลีลา
ค.  ยาเขียวหอม                                                     ง.  ยาประสะจันทน์แดง
15.ข้อใดคือตำรับยาที่ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ที่สงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก
ก.  ยาแก้ไข้ห้าราก                                                ข.  ยาเขียวหอม
ค.  ยาจันทน์ลีลา                                                   ง. ยาประสะจันทน์แดง
16.น้ำหนึ่งอายุ 25 ปี มีอาการเป็นไข้ ตัวร้อน กระสับกระส่าย จัดเป็นอายุสมุฏฐานช่วงใด
ก. มัชฉิมวัย ป่วยด้วยเสมหะเป็นต้นวาตะเป็นที่สุด      
ข.  มัชฉิมวัย ปิตตะเป็นเจ้าเรือน มีกำลัง 12
ค.  มัชฉิมวัย ป่วยด้วยปิตตะเป็นต้น เสมหะเป็นที่สุด
ง.  มัชฉิมวัย ปิตตะเป็นต้น วาตะะเป็นที่สุดกำลัง12
17. กาลสมุฏฐานวาโยพิกัดพิกัดวาตะกระทำอยู่ในช่วงเวลาใด
ก.   06.00-10.00 น.  18.00-22.00 น.                                ข.   10.00-14.00 น.  22.00-02.00 น.
ค.   11.00-14.00 น . 23.00-02.00 น.                                ง.  14.00-18.00 น.  02.00-06.00 น.
18.สมุฏฐานอาโปธาตุพิกัด เป็นที่ตั้งแห่งทวาทศอาโป ประกอบด้วย
ก.  โลหิตตัง-เขโฬ-ศอเสมหะ                                           ข. ศอเสมหะ-อุระเสมหะ-เขโฬ
ค.  ศอเสมหะ-อุระเสมหะ-คูถเสมหะ                             ง. อุระเสมหะ-คูถเสมหะ-โลหิตตัง
19.กำลังไข้หรือองศาไข้ประกอบด้วยอะไรบ้าง
ก.  ปิตตะ 7-เสมหะ-10-วาตะ 12                                      ข. ปิตตะ 12-เสมหะ 10-วาตะ 7
ค.  ปิตตะ 10-เสมหะ 12-วาตะ 7                                       ง. ปิตตะ 7-เสมหะ 12-วาตะ 10
20.มิจฉาญาณแพทย์หมายถึงอะไร
ก. แพทย์แผนไทย                                                               ข. แพทย์ชนบท
ค. แพทย์ที่รู้แจ้ง                                                                   ง. แพทย์ที่มิรู้แจ้ง
21. ที่ตั้งของโรคประเทศอบอุ่นเป็นสมุฏฐานใด
ก. สมุฏฐานเตโช ดี โลหิต                                 . สมุฏฐานอาโปดีโลหิต
ค. สมุฏฐานเตโชวาโยโลหิต                             ง. สมุฏฐานอาโปวาโยโลหิต
22.   สมุฏฐานปถวีธาตุพิการข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. ปัปผาสังพิการ ให้อกแห้ง กระหายน้ำ และเป็นโรค เช่น ริดสีดวงแห้ง
ข. วักกังพิการ ให้อกแห้ง กระหายน้ำ และเป็นโรค เช่น ริดสีดวงแห้ง
ค..กิโลมกังพิการ ให้อกแห้ง กระหายน้ำ และเป็นโรค เช่น ริดสีดวงแห้ง
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวถูกต้อง
23.   ให้ตัวร้อน เป็นไข้ ให้คลั่งเพ้อให้ปัสสาวะแดง ให้เป็นเม็ด ตามผิวหนังเช่นเป็นประดงต่างๆ  เป็นปานดำ ปานแดง และกาฬโรค อาการต่าง ๆนี้ คือสาเหตุอะไรพิการ
ก. โลมาพิการ                                       ข. มังสังพิการ
ค. โลหิตพิการ                                      ง. มุตตังพิการ
24.   การตรวจโรคด้วยการพินิจพิเคราะห์เหตุผล โดยรอบคอบจัดเป็นคุณธรรมของหมอข้อใด
ก. สัมมาสังกัปปะ                                                ข. โยนิโส วิจารณญาณ
ค. สติสัมปชัญญะ                                                ง. โยนิโสมนสิการ
25.   ตรีโทษเสมหะ ตั้งแต่เวลา 08.00-09.00 น. มีวาตะการกระทำกี่ส่วน
ก.  1 ส่วน                                                              ข.  2  ส่วน
ค.  3 ส่วน                                                              ง.  4 ส่วน
  26.คนไข้สะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ำมูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว ปากขม กินอาหารไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทำพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำมูกแห้ง ท่านเห็นเขาป่วยเป็นอะไร
ก.ไข้กำเดาน้อย                                                    ข.ไข้กำเดาใหญ่
ค.ไข้หวัดใหญ่                                                     ง.ไข้สามฤดู
27.ถ้าคนไข้มีอาการหน้าผากตึง นัยน์ตาดูไม่รู้จักอะไรมองไม่เห็นแล้วกลับเห็น หูตึงแล้วกลับได้ยินจมูกไม่รู้กลิ่นกลับรู้ ลิ้นไม่รู้รสอาหารกลับรู้ กายไม่รู้สึกสัมผัสแล้วกลับรู้ มีอาการเปลื่ยนไปเปลี่ยนมา
 ก. สันตัปปัคคี                                                      ข. ปริหาหัคคี       
ค. ชิรณัคคี                                                             ง. ปริทัยหัคคี
28.ที่กล่าวว่าไข้สำประชวรให้แพทย์สังเกตนัยน์ตาคนไข้นั้น ถ้าคนไข้มีนัยต์ตาแดงดังโลหิตและมีน้ำตาคลอเบ้าเป็นไข้สำประชวรอะไร
ก.ไข้เพื่อกำเดา                                                     ข.ไข้เพื่อโลหิต    
ค.ไข้เพื่อดี                                                             ง.ไข้เพื่อลม
29.ในการพิจารณาการรักษาไข้พิษไข้กาฬ มีข้อห้ามไว้อย่างไรบ้าง ?
ก.ห้ามวางยารสร้อน รสเผ็ด รสเปรี้ยว
ข.ห้ามเอาโลหิตออก ห้ามถูกน้ำมัน ห้ามถูกเหล้า ห้ามนวด
ค.ห้ามประคบ ห้ามกิน ห้ามอาบน้ำร้อน ห้ามรับประทานส้มมีผิวมีควัน กะทิ น้ำมัน
ง. ถูกหมดทุกข้อ
30.ในคิมหันตฤดู คือ เดือน 5 6 7 8 ท่านกล่าวว่าเป็นไข้เพื่ออะไร
ก.ไข้เพื่อลม                                                                      ข.ไข้เพื่อโลหิต         
ค.ไข้เพื่อกำเดา                                                                ง.ไข้เพื่อเสมหะ
31.มีลักษณะผุดขี้นมาดังยุงกัดทั้งตัว ทำพิษให้คันปวดแสบปวดร้อน ตามคัมภีร์ตักศิราตรงตามข้อใด
ก.ไข้ประดงแมว                                                             ข.ไข้ประดงลิง
ค.ไข้ประดงมด                                                                ง.ผิดทุกข้อ
32.การวิเคราะห์ลักษณะประเภทไข้  อาการให้หนาว ให้ร้อน แสยงขน จุกอก ให้หลับใหล กินไม่ได้ อ่อนแรง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซีดเผือด ให้ปากหวาน ให้ราก เป็นไข้เพื่ออะไร
ก.ไข้เพื่อเสมหะเอกโทษ                                    ข.ไข้เพื่อกำเดาเอกเอกโทษ
ค.ไข้เพื่อโลหิตเอกโทษ                                                  ง.ไข้เพื่อลมเอกโทษ
33.ให้เชื่อมมัวไปไม่ได้สติ เอารังมดแดงเคาะกัดจนทั่วตัวยังไม่รู้สึก หมายถึงอะไร
ก.ไข้กระดานหิน                                                 ข.ไข้ดานหิน
ค.ไข้กระโดงน้ำ                                                   ง.ไข้กระโดงแกลบ
34.ลักษณะที่เรียกว่า เอกโทษ ทุวันโทษ และตรีโทษ มีอาการอย่างไร ?
ก.เอกโทษ คือ ไข้ที่มีโทษ 1 อย่าง                    
ข.ทุวันโทษ คือ ไข้ที่มีสิ่งที่เกิดโทษรวมกัน 2 อย่าง
ค.ตรีโทษ คือ ไข้ที่มีสิ่งให้โทษ 3 สถาน                         
.ถูกทุกข้อ
35.ลักษณะไข้มีอาการจับหนาวสะท้าน แสยงขน จุกแน่นในอก หายใจขัดไม่สะดวก เหงื่อตก
ก.ทุวันโทษลม และเสมหะ                                                ข.ทุวันโทษลม และกำเดา
ค.ทุวันโทษกำเดา และโลหิต                                             ง.ทุวันโทษกำเดา และเสมหะ
คัมภีร์ตักศิลา  14  ข้อ
36.ไข้ชนิดใดที่เมื่อเป็นแล้วมีอายุอยู่ได้เพียงวันเดียว
                ก.ไข้คด                                                                 ข.ไข้คดและไข้แหงน
                ค.ไข้แหงน                                                            ง.ไม่มีข้อใดถูก
37.ไข้ใดกระทำพิษให้ร้อนที่สุดให้ร้อนเป็นเปลว  ให้อกดำ จมูกดำ สีเป็นควัน ข้อใดถูกต้อง
                ก.ไข้สายฟ้าฟาด                                                  ข.ไข้ไฟเดือนห้า
                ค.ไข้ระบุชาด                                                        ง.ไข้เปลวไฟฟ้า
38.ไข้ที่มีอาการให้ปวดศีรษะ ตัวร้อนจัด นัยน์ตาแดง อาเจียน นอนไม่หลับ คือไข้อะไร
                ก.ไข้หวัดน้อย                                                       ข.ไข้หวัดใหญ่
                .ไข้กำเดาน้อย                                                     ง.ไข้กำเดาใหญ่
39.ไข้ออกหัด มีลักษณะการผุดอย่างไร
                ก. ผุดขี้นมาทางฝีดาษทั่วทั้งตัว                                      ข.ผุดขี้นมาเหมือนเม็ดข้าวสารหัก
                ค. ผุดขี้นมาเหมือนเม็ดทรายทั่วทั้งตัว มียอดแหลมๆ ง.ผิดทุกข้อ
40.คนไข้สะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ำมูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว ปากขม กินอาหารไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทำพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำมูกแห้ง ป่วยเป็นอะไร
                ก.ไข้กำเดาน้อย                                                   ข.ไข้กำเดาใหญ่
                ค.ไข้หวัดใหญ่                                                     ง.ไข้สามฤดู
41.ในการพิจารณาการรักษาไข้พิษไข้กาฬ มีข้อห้ามไว้อย่างไรบ้าง ?
                ก.ห้ามวางยารสร้อน รสเผ็ด รสเปรี้ยว
            ข.ห้ามเอาโลหิตออก ห้ามถูกน้ำมัน ห้ามถูกเหล้า ห้ามนวด
                ค.ห้ามประคบ ห้ามกิน ห้ามอาบน้ำร้อน ห้ามรับประทานส้มมีผิวมีควัน กะทิ น้ำมัน
                ง. ถูกหมดทุกข้อ
42. ยาที่ใช้ในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ  ขนานที่ 1  คือยาในข้อใด
                ก. ยาแก้ว 5 ดวง                                                   ข. ยา 5 ราก           
                ค.ยากระทุ้งพิษไข้                                                ง. ถูกทุกข้อ
43. ลักษณะผุดขี้นมาดังยุงกัดทั้งตัว ทำพิษให้คันปวดแสบปวดร้อน ตามคัมภีร์ตักศิลาตรงตามข้อใด
                ก.ไข้ประดงแมว                                                   ข.ไข้ประดงลิง
                ค.ไข้ประดงมด                                                     ง.ผิดทุกข้อ
44.มีลักษณะผุดขี้นมาเป็นหมู่เป็นริ้วคล้ายตัวปลิงทั่วกาย ขนาด 1-3 นิ้ว สีดำเหมือนดินหม้อ เป็นอาการไข้อะไร
                ก.ไข้รากสาดปานเขียว                                        ข.ไข้รากสาดปานแดง
                ค.ไข้รากสาดพนันเมือง                                      ง.ไข้รากสาดสามสหาย
45.เมื่อเวลาจับไข้ มีอาการตัวร้อนเป็นเปลว เท้าเย็นมือเย็น ให้เชื่อมมัว ไม่มีสติสมปฤดี ให้หอบให้สะอึก จับตัวแข็งเหมือนท่อนไม้ให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง จับไม่เป็นเวลา ถ้าพระอาทิตย์ตกพิษก็คลายลง เป็นลักษณะของไข้อะไร
                ก.ไข้จันทรสูตร                                                   ข.ไข้สุริยสูตร
                ค.ไข้เมฆสูตร                                                        ง.ถูกหมดทุกข้อ
46.ลักษณะการผุดของฝีกาฬ ผุดขี้นมามีสัณฐานเรียวเล็กเท่าหวายตะคล้า 1- 2 นิ้ว ผุดขี้นมาบั้นเอวก้นกบ ขาทั้งสองข้าง ในที่ลับ ท้องน้อย ราวข้าง ใต้รักแร้ คืออาการของกาฬชนิดใด
                ก. กาฬแม่ตะงาว                                                 ข. กาฬฟองสมุทร
                ค. กาฬตะบองพะลำ                                           ง. กาฬตะบองชนวน
47.ไข้พิษไข้กาฬ จากคัมภีร์ตักศิลา ผุดเป็นแผ่นเท่าใบพุทรา ขี้นทั่วตัวมีสีดำ อาการจับมือเย็นเท้าเย็น ตัวร้อนเป็นเปลวเพลิง ตาแดงดังโลหิต ปวดศีรษะ ร้อนเป็นตอน เย็นเป็นตอนไม่เสมอกัน จับรุ่งจนเที่ยง เที่ยงจนค่ำ เป็นลักษณะอาการของไข้
                ก.ไข้อีดำ                                                                ข.ไข้ปานดำ
                ค.ไข้ปานแดง                                                       ง.ไข้ดานหิน
48.ผู้แต่งคัมภีร์ปฐมจินดาคือ
ก.พระปชาบดี                                                  ข.พระเจ้าพิมพิสาร
ค.พระอาจารย์ชีวกโกมารภัจจ์                       ง.พรมปุโรหิต
49.สัตว์ที่มาปฏิสนธิในครรภ์เป็นตัวเรียกว่า
ก.อัณฑะชะ                                                ข. ชลามพุชะ
ค. สังเสทชะ                                                ง.อุปปาติกะ
50.มีระดูล้างหน้า 1 ครั้ง หรือถ้าไม่เป็นดังนั้นก็ให้มารดาฝันเห็นวิปริต ก็รู้ว่าตั้งครรภ์ขึ้น เรียกว่า
ก.ไชยเชษฐ์                                                ข.ไชยโกฐ
ค.ไชยเทพ                                                  ง. ไชยเภท
51.การรักษาครรภ์ให้ปกติเรียกว่า
ก. ครรภ์ปริมลฑล                                            ข.ครรภ์ปกติ
ค.ครรภ์โภทร                                                   ง.ครรภ์ปรามาศ
52.ตัวยา เกสรบัวหลวง ผลทับทิมอ่อน เปลือกมะขาม ครั่ง เสมอภาค บดละลายน้ำกิน เป็นตำรับยารักษา
ก.หญิงมีครรภ์เป็นไข้หวัด                                     ข. หญิงมีครรภ์เป็นบิด
ค.หญิงมีครรภ์เป็นริดสีดวง                                    ง. หญิงมีครรภ์แพ้ท้อง
53.เมื่อครบกำหนดคลอดทำให้เกิด
ก.ลมอโธคมาวาต                                          ข.ลมสุนทรวาต
ค. ลมกัมมัชวาต                                             ง.ลมมุรธาวาต
54. รู้ย่าง กระดูก 300 ท่อนสะเทือน เส้นเอ็นกระจาย
ก.สำรอกน้อย                                        ข.สำรอกเล็ก
ค.สำรอกใหญ่                                       ง. สำรอกกลาง
55.กิมิชาติ มีตัวดังตัวด้วง ปากดำแหลม ตัวขาว เรียกว่า
ก.งานม                                            ข.งางอก
ค.งากำจัด                                        ง.งากำจาย
56.ตัวยา ลูกจันทน์ ฝางเสน หวายตะค้า ทั้ง 3 สิ่งฝนด้วยน้ำมันงูเหลือม ทาแก้สรรพตานทั้งปวง ทาส่วนใดของทารก
ก.ทากระหม่อม                                                   ข. ทากระดูกสันหลัง
ค.ทาหน้าผาก                                                      ง.ทาท้อง
57.ลักษณะสตรีน้ำนมให้โทษแก่กุมาร 2 จำพวกคือ
ก.หัสดี  มโหธร                                                  ข.ทิพย์วดี  ยักษ์ขินี
ค.ยักษ์ขินี  หัสดี                                                  ง.เบญจสตรี  กิริณี
58.น้ำนมสีขาวดังสีสังข์ จมลงในขัน สัณฐานดังลูกบัวเกราะ จัดเป็นน้ำนมอย่างใด
ก.น้ำนมประเสริฐ                                                ข.น้ำนมชั้นโท
ค.น้ำนมดีเลิศ                                                        ง. น้ำนมเอก
59.อาการเจ็บป่วยของเด็กตั้งแต่ในครรภ์จนคลอดถึงอายุ 5 ขวบ เรียกว่า
ก.ซางเจ้าเรือน                                               ข.ซางสะกอ
ค.ซางจร                                                          ง.ซางโจร
60.เป็นกับเด็กแรกเกิด เพราะไอร้อนในช่องท้อง ทำให้เกิดฝ้าลักษณะเป็นปุยสีขาวในช่องปาก
ลำคอ กระพุ้งแก้ม หรือบนลิ้นเป็นฝ้าบางๆไม่มีเม็ดยอด มีสีต่างๆกันเรียกว่า
ก.หละ                                                     ข.  ละออง
 ค.ซาง                                                      ง.  สะพั้น
61.เป็นโรคติดเชื้อราในช่องปากของเด็กแรกเกิดถึง 3 เดือน ฝ้าขาวเป็นแผ่นหนา มีเม็ดเรียบหรือยอดแหลมผุดขึ้นที่เหงือกและเพดานปากของเด็ก มีสีต่างๆกัน เรียกว่า
ก. ละออง                                                 ข.ซาง
ค. หละ                                                     ง.สะพั้น
62.พยาธิ์ใส้เดือนคือ
ก.กุฏฐะกาละหิระ                                         ข.โชตะกาละหิระ
ค.วิวรณ์กาละหิระ                                         ง. สุจิมุขะกาละหิระ
63.ในคัมภีร์มหาโชตรัต  ว่าด้วยที่เกิดของโลหิตระดูสตรี ข้อใดกล่าวผิด
                ก.โลหิตัง  หทยัง  ชาตัง                                      ข.ปิตตัง  ชาตัง
                ค.มังสัง  ชาตัง                                                     ง.อัฏฐิมิญชัง  ชาตัง
64. น.ส.นิด  อายุ 16 ปี  ยังไม่ได้แต่งงาน  เมื่อโลหิตระดูจะมีมา  ให้เป็นไข้  สะบัดร้อนสะท้านหนาว  ปวดศีรษะเป็นกำลัง  ครั้นโลหิตระดูมีมาแล้ว  อาการดังกล่าวก็หายไป  ถือเป็นโลหิตปกติโทษอันเกิดแต่ที่ใด  
                ก. หัวใจ                                                                 ข.ขั้วดี
                ค.ผิวเนื้อ                                                                ง. เส้นเอ็น
65.ข้อใดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้หญิงที่เคยมีโลหิตระดูมาแล้วกลับแห้งไป
                ก. มีกามราคะจัด                                                   ข. มีโลภะเป็นนิจ
                ค. บริโภคอาหารรสเปรี้ยวหวานมากไป         ง. ออกกำลังกายมากเกินไป
66.ข้อใดไม่ใช่โลหิตทุจริตโทษ 5 ประการ
                ก.โลหิตระดูร้าง                                                               ข.โลหิตระดูทะลวง
                ค.โลหิตตกหมกช้ำ                                                           ง. โลหิตเน่า
67. ลักษณะอาการ  เมื่อจะบังเกิด ให้โลหิตนั้นคั่ง  เดินไม่สะดวก  แล้วตั้งขึ้นเป็นลิ่มเป็นก้อน  ให้แดกขึ้นแดกลง  บางทีให้คลั่ง  ตาเหลือกตาช้อน  ขอบตาเขียว  ริมฝีปากเขียว  เล็บมือเล็บเท้าเขียว  สมมุติว่าปีศาจเข้าสิง  จัดเป็นโลหิตทุจริตโทษประเภทใด
                ก.โลหิตต้องพิฆาต                                              ข.โลหิตคลอดบุตร
                ค.โลหิตเน่า                                                           ง.โลหิตตกหมกช้ำ
68.ลักษณะอาการ ถ้าเกิดแก่สตรีผู้ใด มีสามีแล้วหรือไม่มีสามีก็ดี  เมื่อระดูจะมีมานั้น  ให้ตึงตัว  ช่องครรภ์ร้อนดุจถูกพริก  โลหิตออกมาสีเหมือนน้ำฝางเอาน้ำส้มมะนาวบีบลง สีนั้นเหลืองไป  จัดอยู่ในโลหิตเกิดแต่กองธาตุใด
                ก.  เกิดแต่กองปัถวีธาตุ                                       ข.   เกิดแต่กองเตโชธาตุ
                ค.  เกิดแต่กองอาโปธาตุ                                     ง.  เกิดแต่กองวาโยธาตุ
69.ในคัมภีร์มหาโชตรัต  ว่าด้วยเรื่องริดสีดวงมหากาฬ   เกิดที่ใดได้บ้าง
                ก. คอ  อก  ลำไส้  ทวาร                                       ข.จมูก  อก  ลำไส้  ทวาร
                ค.ปาก  อก  ท้องน้อย  ทวาร                               ง.คอ  อก  ท้องน้อย  ทวาร
70. ลักษณะโลหิตระดู บางดีดำเหม็นเน่าโขง  บางทีจางดุจน้ำชานหมาก  บางทีใสดุจน้ำคาวปลา  บางทีดุจน้ำซาวข้าว  ครั้นแก่เข้ามักกลายเป็นมานโลหิต  จัดอยู่ในโลหิตทุจริตโทษประเภทใด
                ก.โลหิตระดูร้าง                                                   ข.โลหิตระดูทะลวง
                ค.โลหิตตกหมกช้ำ                                              ง. โลหิตเน่า
71. สตรีที่ไม่ได้แต่งงาน  โลหิตบริบูรณ์ดี  ครั้นแต่งงานมีสามีแล้ว โลหิตจางซีดไป  จัดอยู่ในโทษข้อใด
                ก.โลหิตปกติโทษ                                               ข.โลหิตทุจริตโทษ
                ค.โลหิตระดูร้าง                                                   ง.  โลหิตชาติโทษ
72.  จากข้อ 9  มีวิธีการรักษาอย่างไร
                ก.ให้ยาประจุโลหิต                                             ข.ให้ยาบำรุงธาตุ
                ค.ให้ยาบำรุงโลหิต                                              ง.ถูกทุกข้อ
73.ในคัมภีร์ชวดาร  กล่าวไว้ว่า  มนุษย์ทั้งหลายจะเกิดโรคต่างๆ ได้  ตั้งแต่คลอดจนอายุขัย  นั้นอาศัยสิ่งใด
                ก. อาศัยโลหิต                                                       ข.อาศัยลม
                . อาศัยโลหิตและลม                                         ง.ผิดทุกข้อ
74. ลมที่เกิดในทิศเบื้องต่ำ   คือลมชนิดใด
                ก. ลมอุทธังคมาวาตา                                           ข. ลมอโธคมาวาตา
                ค.ลมโกฏฐาสยาวาตา                                          ง. ลมอัมพฤกษ์  อัมพาต
75.สาเหตุที่ทำให้ลมอุทธังคมาวาตา และลมอโธคมาวาตา  ระคนกันแล้วบังเกิดโทษแก่มนุษย์นั้น  คือข้อใด
                ก.บริโภคอาหารมากหรือน้อยเกินไป              ข.บริโภคอาหารผิดเวลา
                ค.ต้องร้อน  ต้องเย็น  ยิ่งนัก                               ง.ถูกทุกข้อ
76.ลมในข้อใดเป็นฐานที่ตั้งแห่งลมทั้งหลาย  มีลักษณะดุจปืน  เป็นที่ตั้งแห่งดินประสิว  ลูกกระสุน  เพลิงจึงแล่นออกจากลำกล้อง  ประหารชีวิตสรรพสัตว์ทั้งปวง
                ก. ลมกุจฉิสยาวาตา                                              ข.ลมโกฏฐาสยาวาตา
                ค. ลมอุทรวาต                                                       ง.ลมอัมพฤกษ์  อัมพาต
77. ลมมีพิษ 6 จำพวกแรก  คือข้อใด
                ก.ลมราธยักษ์                                                        ข.ลมชิวหาสดมภ์
                ค.ลมพุทธยักษ์                                                      ง.ลมบาดทะจิต
78.ลมมีพิษ 6 จำพวกหลัง  คือข้อใด
                ก.  ลมทักขิณโรธ                                  ข.   ลมตะติยาวิโรธ
                ค.  ลมกาฬสิงคลี                                  ง.  ลมกุมภัณฑ์ยักษ์
79.ลมในข้อใด  ที่มีลักษณะอาการท้องเดิน  อาเจียน  สลบ  ไม่รู้ก็ว่าเป็นสันนิบาตสองคลอง  มือเท้าเขียว  ทำให้ชัก  ไม่รู้ก็ว่าป่วง  กำหนด 3 วัน
                ก. ลมพานไส้                                                        ข. ลมพัดในไส้
                ค. ลมบาทาทึก                                                      ง. ลมสูบพิษขึ้นในลำไส้
80. ลมในข้อใด  มีลักษณะอาการ  ให้เหม็นคาวคอ  ถ่มน้ำลายบ่อยๆ  หายใจขัดอก   ถ้าเกิดแก่ผู้ใด  ได้ 5 เดือน  เสียจักษุจึงหาย
                ก. ลมปัถวีธาตุกำเริบ                                           ข. ลมบาทาทึก
                ค. ลมตุลาราก                                                       ง. ลมพัดในลำไส้
81.  ลักษณะอาการ ให้มือเท้าเย็น  เป็นลูกกลิ้งอยู่ในท้อง  ให้จุกร้องดังสัตว์ตอดกัด  ปวดแต่หัวแม่เท้าขึ้นมาถึงหัวใจ  แน่นิ่งไป  ดุจดังพิษงูเห่า  คือลมในข้อใด
                ก. ลมทักขิณโรธ                                                 ข. ลมตติยาวิโรธ
                ค. อินทรธนู                                                          ง. ลมอัศมุขี
82. ข้อใดคือลักษณะอาการของลมอินทรธนู
ก. ลักษณะเหมือนไข้รากสาด                            ข.จับให้ดิ้นร้อง แล้วแน่นิ่งไป
ค. เป็นวงล้อมสะดือ สีดำ  แดง  เขียว  เหลือง  เท่าวงน้ำอ้อยงบ ง. ข้อ ก. และ ข้อ ค. ถูก
83.  ข้อใดมิใช่สาเหตุของโรคอุจจาระธาตุตามคัมภีร์ธาตุบรรจบ
ก.รับประทานอาหารแปลกหรือรับประทานอาหารมากเกินกำลังธาตุ
ข. ธาตุสมุฏฐานมหาภูตรูป 4 ประชุมกันในกองสมุฏฐาน ทำให้ธาตุกำเริบ หย่อน พิการ
ค.อุจจาระธาตุเป็นเมือกมัน เปลวไต หยาบก็มี ละเอียดก็มี ดังมูลแมว มูลไก่ มูลเต่า
ง.ไข้ที่มีพิษจัดตกถึงสันนิบาต แล้วเรื้อรังมา ธาตุนั้นแปรปรวน วิปริต
84.  จากกองพิกัดสมุฏฐานมหาภูตรูป 4 สมุฏฐานกองใดได้นามว่า มหาสันนิบาต หรือ สันนิบาตกองใหญ่
ก. กองสมุฏฐานเตโช                                          ข  กองสมุฏฐานวาโย
ค.กองสมุฏฐานปถวี                                            ง.กองสมุฏฐานอากาศ
85.  ผู้ป่วยชายไทยคู่ อายุ 48 ปี มาพบท่านด้วยอาการลงท้อง เจ็บหน้าอก อุจจาระปัสสาวะไม่ออก นอนไม่หลับ ขัดหัวเข่า ปวดท้องเป็นพรรดึก ท่านจะวินิจฉัยว่าอุจจาระธาตุเกิดจากธาตุใด
ก.ปถวีธาตุ                                                             ข. อาโปธาตุ
ค.เตโชธาตุ                                                            ง. อากาศธาตุ
86. หญิงไทยคู่ อายุ 37 ปี มีอาการปากแห้ง คอแห้ง หนักตัว วิงเวียน อุจจาระปัสสาวะไม่สะดวก  เหงื่อไหลหยดย้อย อุจจาระกลิ่นดังหญ้าเน่า เกิดจากอสาทิยะอุจจาระคันธารธาตุระคนด้วยสิ่งใด
ก.มลอชินะ  (เตโชธาตุสมุฏฐาน)                     ข.วิวัฒฑอชินะ (วาโยธาตุสมุฏฐาน)
ค.อามาอชินะ (อาโปธาตุสมุฏฐาน)                 ง.วัฒฑะอชินะ (ปถวีธาตุสมุฏฐาน)
87.  โรคบังเกิดเป็นโอปักกะมิกโรค คือตกลงมาจากที่สูงหรือต้องทุบถองโบยตี ต้องราชอาญา อหิวาตกโรค และโรคที่เกิดเป็นพิษขึ้นต่างๆ มีพิษดี พิษโลหิต และพิษเสมหะ เป็นต้น จัดเป็นมัชฌิมะอสาทิยะพิกัดสมุฏฐานหนึ่ง จะให้ยานั้นยากนักหมายถึงข้อใด
ก. อสาทิยะโบราณชวร                                       ข. อสาทิยะจะละนะ
ค. อสาทิยะมรณันติกชวร                                  ง. อสาทิยะอชินชวร
88.  ข้อใดมิใช่ชื่อยารักษา โรคอุจจาระธาตุ
ก. ยาพรหมภักตร์                                                            ข. ยามหาพรหมภักตร์
ค. ยาอัศฎาธิวัค                                                                 ง. ยามหาอัศฎาธิวัค
89.  ข้อใดผิด
ก. อุจจาระมีสีดำ แดง เป็นเมือกมัน มักเป็นด้วยไข้รากสาด บิด  ไข้พิษ ไข้กาฬ อติสารธาตุหย่อน
ข. อุจจาระสีเทา เป็นมูลโค เนื่องจากธาตุหย่อน โรคซางเด็ก โรคไข้กาฬ
ค. ปัสสาวะสีเหลืองแก่ เนื่องจากไข้เพื่อดีและโลหิต เช่น ไข้ป่า ไข้ป้าง
ง.ปัสสาวะสีขุ่นมัน สีชาแก่ เนื่องจากไตพิการในโรคไตพิการ ไข้รากสาด ไข้พิษ
90.ฤดู 3 ให้ธาตุพิการ คิมหันตฤดู  เตโชธาตุพิการ โลหิตเป็นต้นเหตุให้โทษ นานาประการ  ตั้งแต่เมื่อใด
.แรม 1 ค่ำ เดือน 4 ถึงขี้น 15 ค่ำ เดือน 8           ข.แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงขี้น 15 ค่ำ เดือน 12
ค.แรม 1 ค่ำ เดือน 12 ถึงขี้น 15 ค่ำ เดือน 4          ง.แรม 1 ค่ำ เดือน 5 ถึงขี้น  15 ค่ำ เดือน 6
91.ในฤดู 6 คิมหันตฤดู แบ่งออกดังนี้ ข้อใดที่มิใช่      
ก. พัทธปิตตะ                                                                   ข. อพัทธปิตตะ
ค. กำเดา                                                                 ง. หทัยวาตะ
92.ปถวีธาตุพิการ ให้คลุ้มคลั่งดุจเป็นบ้า หาแรงมิได้ถ้ามิฉะนั้นจะหิวโหย ให้ทุรนทุรายยิ่ง นักอะไรพิการ
ก. เป็นเพราะเนื้อพิการ                                                 ข. เป็นเพราะเอ็นพิการ
ค. เป็นหฤทัยพิการ                                                              ง. เป็นเพราะไตพิการ
93.ข้อใดจัดอยู่ในทุราวสา 32 
                ก. ทุรวสา 20  ประเมหะ 12                               ข. ทุรวสา 12  ประเมหะ 20
                ค. ทุรวสา 16 ประเมหะ 16                                ง. ผิดทุกข้อ
94. ข้อใดจัดอยู่ในทุราวสา 12 
                ก. อุปทม 4                                                             ข. มุตฆาต 4
                ค.สัณฑฆาต 4                                                       ง. ถูกทุกข้อ
95. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะปัสสาวะในมุตกิด 4 จำพวก
ก. ปัสสาวะดุจโลหิตช้ำ ดังน้ำปลาเน่า                                 ข. ปัสสาวะเป็นหนองจางๆ  ดุจน้ำซาวข้าว
ค. ปัสสาวะเป็นโลหิตจาง  ดุจน้ำชานหมาก         ง. ปัสสาวะเป็นสีดำ  ดุจน้ำครำ
96. อาการ ให้ปวดหัวเหน่า  ให้แสบองคชาต  ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว   เป็นอาการของโรคใด
                ก. ทุราวสา 4                                                         ข. มุตกิต 4
                ค. มุตฆาต 4                                                           ง. ถูกทุกข้อ
97.  กระทำให้ปัสสาวะหยดย้อย  ให้ปวดแสบในองคชาต  เจ็บบั้นเอวเป็นกำลัง  ครั้นแก่เข้าทำให้ไส้ขาดออกมา  รักษาไม่ได้  เกิดเพราะเสมหะ 1 ส่วน  โลหิต 2 ส่วน  เป็นอาการขององคสูตรที่เกิดในฤดูใด
                ก. คิมหันตฤดู                                                       ข. วสันตฤดู
                ค. เหมันตฤดู                                                        ง. สันนิปาตฤดู
98. อาการปัสสาวะหยดย้อย  ปวดแสบยิ่งนัก  บางทีเป็นน้ำเหลือง  บางทีเป็นน้ำคาวปลาไหลซึม  โทษเกิดเพราะน้ำเหลืองร้าย    จัดเป็นอาการของช้ำรั่ว  ที่มีสาเหตุจากข้อใด
                ก.  ช้ำรั่วเกิดเพราะคลอดบุตร                            ข.   ช้ำรั่วเกิดเพราะเสพเมถุนเกินประมาณ
                ค.  ช้ำรั่วเกิดเพราะเป็นฝีในมดลูก                    ง.  ช้ำรั่วเกิดเพราะเสพเมถุนสำส่อน
99. อุปทมในข้อใด  ที่เกิดกับบุคคลผู้บริสุทธิ์  ที่มิได้มักมากในทางกามตัณหา  เช่น  พระภิกษุ  สามเณร  หรือฆราวาส ผู้มีศีลอันบริสุทธิ์  ไม่ได้เสพเมถุนกับมาตุคามเลย
                ก. อุปทมเกิดเพราะนิ่ว                                        ข. อุปทมเกิดเพราะโทษดาน
                ค. อุปทมเกิดเพราะกระษัยกล่อน                     ง. ข้อ ข. และ ข้อ ค. ถูก
100. ลักษณะอาการ  ให้เป็นเม็ดขึ้นมาเท่าเม็ดถั่วดำที่ปลายองคชาต  แล้วแตกเป็นน้ำเหลือง  ทำพิษเจ็บปวดแสบร้อน  เน่าเข้าไปแต่ปลายองคชาต  บางทีกัดองคชาตเน่าเข้าไปทุกวัน จนถึงโคนองคชาตเมื่อใดก็ตายเมื่อนั้น  จัดอยู่ในประเมหะจำพวกใด
                ก. องคสูตร                                                            ข. อุปทม

                ค. ไส้ด้วน                                                             ง. ไส้ลาม