วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรื่องของกล้วยๆ

  

เรื่องของกล้วย ที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกล้วยหรือไม่เคยกินกล้วย ทีนี้เรามาดูกันว่า กล้วย มันไม่กล้วยอย่างที่คิด ประโยชน์มันมหาศาลจริงๆ วิถีชีวิตของคนไทยใช้มันตั้งแต่เกิดจนตายเลยก็ว่าได้





ส่วนต่างๆของกล้วยและประโยชน์ในการรักษาโรค

ราก เป็นระบบรากฝอย แผ่ไปทางด้านกว้าง มากกว่าทางแนวดิ่งลึก 
ลำต้นแท้ กล้วยมีลำต้นอยู่ใต้ดินเรียกว่า หัวหรือเหง้า (rhizome) ที่หัวมีตา (bud) ซึ่งจะเจริญ เป็นต้นเกิดหน่อ (sucker)หลายหน่อเรียกว่า การแตกกอหน่อที่เกิดหรือต้นที่เห็นอยู่เหนือดิน  
สามารถนำมาทำสมุนไพร ใช้รักษาโรค ตามแผนโบราณ หรือใช้รักษาผิวหนังที่แดงปวด เนื่องจากถูกแดดเผา โดยรากและลำต้นจะมี สารแทนนิน ซึ่งช่วยในเรื่องของแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ส่วนรากของกล้วยตีบ เมื่อนำมาต้มจะช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำได้เป็นอย่างดี 

ลำต้นเทียม หรือกาบลำต้น(pseudostem) 
ส่วนนี้เกิดจากการอัดกันแน่นของกาบใบที่เกิดจากจุดเจริญของลำต้นใต้ดิน  กาบใบจะชูก้านใบและใบ และที่จุดเจริญนี้จะมีการเจริญเป็นดอกตามขึ้นมาหลังจากสิ้นสุด การเจริญของใบ    ใบสุดท้ายก่อนการเกิดดอก เรียกว่า ใบธง
ใช้ทำเส้นใยหรือทำเชือกทอผ้า ทำอาหารสัตว์ เช่น อาหารของสุกร และยังเป็นอาหารของคนอีกด้วย เช่น แกงหยวกกล้วย กาบกล้วยก็ใช้เป็นสมุนไพร ได้เช่นกัน ส่วนน้ำคั้นจากลำต้นก็ยังสามารถนำมา ทากันผมร่วงหรือเร่งทำให้ผมขึ้นได้อีกด้วย

ใบ
คนโบราณมักใช้ใบตองเป็นภาชนะแทนจานข้าว และยังนำมาใช้ห่อของ ทำมวนบุหรี่หรือทำงานประดิษฐ์ เช่น กระทง บายศรี ใบกล้วยที่นิยมมากคือ ใบกล้วยตานี เพราะมีใบที่ใหญ่ เหนียว และเขียวเป็นเงา เมื่อนำไปทำงานประดิษฐ์จะสวยงามและไม่แตกง่าย แผ่นใบกล้วย ที่อ่อนหากนำไปอังไฟให้อ่อนนิ่ม แล้วนำมาพอกบริเวณที่ขัดยอก ก็จะทำให้อาการดังกล่าวหายได้

ดอกหรือหัวปลี
เป็นดอกตัวผู้ เรานิยมรับประทานหัวปลีแทนผัก โดยรับประทานสดๆ หรือนำมาทำเป็นเครื่องเคียงของอาหารหลายอย่าง เช่น ผัดไทย กะปิหลน และยังนำมาปรุงอาหาร เช่น ยำหัวปลี แกงเลียง ที่เรานิยมรับประทานกัน หรือใช้บำรุงน้ำนมมารดา ต้มหรือคั้น แก้เบาหวาน เมื่อนำมาตากแห้ง ก็สามารถใช้รักษาโรคโลหิตจางได้ เพราะมีธาตุเหล็กมาก

ผล  ผลกล้วยเกิดจากดอกเพศเมีย ซึ่งอยู่ที่โคน กลุ่มของดอกเพศเมีย ๑ กลุ่ม เจริญเป็นผล เรียกว่า ๑ หวี ช่อดอกเจริญเป็น ๑ เครือ ดังนั้นกล้วย ๑ เครืออาจมี ๒ - ๓ หวี  หรือมากกว่า ๑๐ หวี ทั้งนี้แล้วแต่พันธุ์กล้วยและการดูแล ผลของกล้วยมีการเจริญได้ โดยไม่ต้องผสมพันธุ์  จึงทำให้กล้วยส่วนใหญ่ไม่มีเมล็ด ผลกล้วยใช้รับประทานได้ทั้งอ่อน แก่และสุก เช่น ทำกล้วยเชื่อม 
กล้วยบวชชี  กล้วยฉาบ  กล้วยตาก  สำหรับที่อ่อน ๆ หรือดิบ ก็ใช้รับประทานเป็นผักได้

กล้วย อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และ กลูโคส รวมกับเส้นใยและกากอาหาร กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที นอกจากกล้วยจะให้พลังงานมากแล้วยังสามารถเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง แล้วยังสามารถป้องโรคต่างๆ เช่น

กล้วยกับโรคซึมเศร้า
จากการสำรวจของ MIND ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า พบว่ากล้วยมีสาร Tryptophan ที่เมื่อรับประทานไปแล้วจะเปลี่ยนเป็น Serotonin ซึ่งเป็นสารที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีและมีความสุขมากขึ้น

กล้วยกับโรค PMS (Premenstrual Syndrome)
หรืออาการที่ผู้หญิงเป็นก่อนมีประจำเดือน เช่น อารมณ์หงุดหงิด หากได้รับประทานกล้วยเข้าไป ซึ่งกล้วยมีวิตามิน B6 ที่จะรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ ทำให้คุณอารมณ์ดีได้

กล้วยกับโรคความดันโลหิต
กล้วยมี Potassium และมี Sodium ต่ำ จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคความดันได้

กล้วยกับโรคท้องผูก
กล้วยมีไฟเบอร์สูง ทำให้ลำไส้ใหญ่มีการทำงานเพิ่มขึ้น ไม่ท้องผูก

กล้วยกับโรคโลหิตจาง
กล้วยมีธาตุเหล็กทำให้กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง และรักษษโรคโลหิตจางได้

กล้วยกับอาการเจ็บเสียดหน้าอก
กล้วยช่วยลดอาการเจ็บเสียดหน้าอกที่เกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไปได้

กล้วยกับระบบประสาท
กล้วยมีวิตามิน B สูงที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท

กล้วยกับอาการแฮงค์(เมาค้าง)
การกิน Banana milkshake ผสมน้ำผึ้งจะช่วยให้กระเพาะอาหารกลับอยู่ในสภาวะปกติ น้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด นมจะช่วยเพิ่มน้ำในร่างกาย

กล้วยกับยุงกัด
เมื่อถูกยุงกัด ลองเอาผิวด้านในของเปลือกกล้วยมาทาจะช่วยลดอาการบวมและคันได้

กล้วยกับการสูบบุหรี่
กล้วยมีวิตามิน B6,B12, Potassium และ Megnesium ที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายจากผลของการเลิกนิโคตินจากบุหรี่ได้...(ข้อนี้..คนที่สูบบุหรี่แล้วอยากเลิก ต้องลองทำนะ..)

กล้วยกับพลังสมอง
กล้วยอุดมไปด้วย Potassium ที่ช่วยในการตื่นตัว ทำให้เรียนได้ดีขึ้น...

กล้วยกับอาการ Morning Sickness
หรืออาการที่คนท้องในช่วงเดือนแรกๆที่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนในตอนตื่นนอนตอนเช้า ให้รับประทานกล้วยในระหว่างมื้ออาหารจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการเหล่านี้ได้

กล้วยกับโรคแผลในกระเพาะอาหาร
กล้วยจะช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร และไปเครือบผิวของกระเพาะอาหารช่วยป้องกันการเป็นแผลได้

ขอบคุณข้อมูลจาก http://variety.teenee.com/

ขอบคุณข้อมูลจาก http://bananabananastory.blogspot.com/


1 ความคิดเห็น: