คัมภีร์สมุฏฐานวินิจฉัยนี้
เปนตราชูแห่งคัมภีร์เวชศาสตร์ทั้งหลาย เปนหลักเปนประธานอันใหญ่ยิ่งฦกซึ้งคัมภีรภาพ
นัก มิอาจที่บุคคลจะหยั่งรู้ได้โดยง่าย ถ้าแลแพทย์ผู้ใดมิได้เรียนพระคัมภีร์นี้
จะวางยา ก็บมิอาจที่จะได้ (ถูก) ต้อง กับโรคโดยแท้ เหตุว่ามิได้รู้ในกองสมุฏฐานพิกัตอันนี้
แพทย์ผู้นั้นได้ชื่อว่ามิจฉาญาณแพทย์
กองพิกัตสมุฏฐาน ๔
ประการนั้น คือธาตุสมุฏฐาน ๑ ฤดูสมุฏฐาน ๑ อายุสมุฏฐาน ๑ กาลสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐานทั้ง
๔ ประการนี้ แพทย์ทั้งหลายพึงเรียนไว้ให้แจ้งในมหาพิกัตสมุฏฐาน เปนที่ตั้งแห่งภูมิโรคแลภูมิแพทย์ทั้งปวง
สมุฏฐานธาตุทั้ง ๔ หรือกองธาตุสมุฏฐาน มีเตโชธาตุ เปนต้น มีปถวีธาตุเปนที่สุด
เตโช วาโย อาโปและปถวี ทั้ง ๔
กองนี้เปนมหาพิกัตสมุฏฐานธาตุหมวดหนึ่ง แพทย์พึงรู้ไว้ดังนี้
คิมหันตะฤดูสมุฏฐานนั้น
เปนพิกัตแห่งปิตตะสมุฏฐานให้เปนเหตุ
ปิตตะสมุฏฐาน
วาตะสมุฏฐาน เสมหะสมุฏฐาน
สมุฎฐานโรค มีสมุฎฐานสาม คือปิตตะ วาตะ เสมหะ
คือ ลม ดี เสลด เป็นสาเหตุสำคัญ หากสมุฎฐานใด,หนึ่งในสามธาตุนี้ผิดปกติไป
ก็กระทบกับธาตุสมุฎฐานทั้งสองแล้วกระทบต่อธาตุดินในที่สุด
ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก .http://www.medimind.net/สาเหตุการเกิดโรค/ธาตุสมุฏฐาน.html
สมุฎฐานมหาภูตรูปสี่
ว่าด้วยสมุฎฐานมหาภูตรูปสี่ ละสาม ละสาม กับการเกิดโรคในร่างกายเรา
ว่าด้วยสมุฎฐานมหาภูตรูปสี่ ละสาม ละสาม กับการเกิดโรคในร่างกายเรา
พิเศษสมุฏฐาน แล ๓ แล ๓ เช่นคิมหันตะสมุฏฐาน
มี ๔เดือนแบ่งเป็นช่วงละ ๔๐ วัน คือแรมค่ำหนึ่งเดือน ๔ ไปจนแรม ๑๐ ค่ำเดือน ๕
เปนตำแหน่งพัทธะปิตตะสมุฏฐาน แลพัทธะปิตตะจะได้ทำเองนั้นหามิได้
อาไศรยจตุกาลเตโชกองใดกองหนึ่งก็ดี ระคนพัทธะปิตตะสมุฏฐานเหตุว่าเปนเจ้าของ
ถ้าจะแก้อย่าให้เสียเดิมเปนอาทิโดยพิกัตเป็นต้น
ท่านจึ่งจัดไว้ว่าใน ๔
เดือนนี้เปนกำหนดคิมหันตะสมุฏฐานแห่งกำเดา ด้วยว่ากำเดานี้คือเปลวแห่งวาโย
โลหิตเสมหะแลสรรพคุณสมุฏฐานทั้งปวง
ซึ่งจะวิบัติแลมิได้วิบัตินั้นก็อาไศรยแห่งสมุฏฐานนี้
เปนที่บำรุงว่าจะให้วัฒนะแลหายะนะโดยแท้ ดุจพิกัตกล่าวไว้ดังนี้
“๓ สมุฏฐานเปน ๒๙ องษา มีเศษ ๑
บมิควรแก่นับ ด้วยเหตุว่าเปนองษาอดีต อนาคตระคน ถ้าจะนับก็ ๓๐ องษา คือเดือน ๑
สงเคราะห์ให้แจ้งในโทษอันจะประชุมกล่าวคือกองสันนิบาต ถ้ากำลังสมุฏฐานทั้ง ๓
นี้ระคนกันเข้าเมื่อใด จัดได้ชื่อว่าพิกัตกองสันนิบาตเมื่อนั้น”
คำถาม ? “ ด้วยกายแห่งบุคคลทั้งหลายนี้เป็นที่ตั้งแห่งกองสมุฏฐาน
สมุฏฐานเป็นที่ตั้งแห่งกองธาตุ
ธาตุเป็นที่ตั้งแห่งกองโรค
โรคเป็นที่ตั้งแห่งกองอาหาร ( ยา )
ดังนี้ ถ้าจะแก้
ให้แก้ในกองสมุฏฐานเป็นอาทิ
เหตุว่า
สมุฏฐานนี้เป็นที่ตั้งแห่งโรคทั้งหลาย “
ขออธิบายพอสังเขปดังนี้
“ ด้วยกายแห่งบุคคลทั้งหลายนี้เป็นที่ตั้งแห่งกองสมุฏฐาน “
หมายความว่า หากเราพิจารณาสภาวะสภาพร่างกายของเราที่ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ นั้น หากพิจารณาต่อไปอีกจนหมดสภาวะของรูปธาตุทั้ง
๔ แล้ว จะพบว่าร่างกายของเราก่อเกิดมาจากพลังของธรรมชาติ หรือที่เราเรียกว่า
สมุฏฐาน ( ปิตตะ วาตะ เสมหะ )
นั้นเอง
“ สมุฏฐานเป็นที่ตั้งแห่งกองธาตุ “
หมายความว่า รูปธาตุ หรือกองธาตุทั้ง ๔ นั้น ก่อเกิดมาจากพลังทางธรรมชาติ
หรือก่อเกิดมาจากสมุฏฐาน ปิตตะ วาตะ เสมหะ
นั้นเอง
“ ธาตุเป็นที่ตั้งแห่งกองโรค “
หมายความว่า กองโรคที่เกิดกับมนุษย์นั้น สรุปได้ ๓
ประการคือ
๑. ปิตตะสมุฏฐานอาพาธา
๒. เสมหะสมุฏฐานอาพาธา
๓. วาตะสมุฏฐานอาพาธา
การที่คนเราจะเกิดโรคหรือเจ็บป่วยนั้น
เหตุเพราะเกิดการเสียสมดุลของสมุฏฐาน ปิตตะ
วาตะ เสมหะ ในธาตุใดธาตุหนึ่ง ตัวเดียวหรือหลายตัวก็ได้
ในธาตุทั้งหมด ๔๒ ประการ ( ธาตุดิน ๒๐ น้ำ ๑๒ ลม ๖ ไฟ ๔ ) หรือเราจะเรียกอีกอย่างได้ว่า “ เมื่อสมุฏฐาน ( ปิตตะ วาตะ เสมหะ ) ของธาตุ ทั้ง ๔ เสียสมดุล ความเจ็บป่วยก็ตามมา
“ ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า
ธาตุเป็นที่ตั้งแห่งกองโรค
“ โรคเป็นที่ตั้งแห่งกองอาหาร
( ยา ) “
หมายความว่า เมื่อเกิดป่วยหรือเกิดโรค
และเราได้ตรวจและวินิจฉัยได้แล้วว่ามีสาเหตุมาจากสมุฏฐานใดในธาตุใดใน ๔๒ ประการ
เราจึงจะสามารถกำหนดอาหารหรือยา จัดให้ผู้ป่วยได้โดยพิจารณาจากสมุฏฐานของอาหารและยาให้สอดคล้องกับสมุฏฐานของโรค
“ ดังนี้ถ้าจะแก้
ให้แก้ในกองสมุฏฐานเป็นอาทิ
เหตุว่า
สมุฏฐานนี้เป็นรากแก้วแห่งโรคทั้งหลาย “
หมายความว่า ในการเป็นหมอนั้น เมื่อจะทำการ ตรวจ
วินิจฉัย จ่ายยา หรือแนะนำอาหาร เพื่อรักษาบำบัดผู้ป่วยให้หายจากโรค นั้น
ต้องพิจารณาสมุฏฐาน ( ปิตตะ วาตะ เสมหะ ) ไว้เป็นหลักคิด เพราะสมุฏฐาน ( ปิตตะ วาตะ เสมหะ ) นี้ เป็นรากแก้วแห่งโรคทั้งหลาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น