ตัวอย่างข้อสอบกฏหมาย พรบ.ยา พ.ศ.2510
ข้อ 1. การโฆษณายาแบบใดที่ผู้อนุญาติมีอำนาจอนุมัติข้อความที่โฆษณาได้
1. การโฆษณายาโดยการร้องเพลง
2. การโฆษณาสรรพคุณยาอันตราย
3. การโฆษณายาแก้เบาหวานโดยตรงต่อผู้ประกอบโรคศิลปะ
4. การโฆษณายาโดยให้ผู้ประกอบโรคศิลปะเป็นผู้รับรองสรรพคุณ
ข้อ 2. นายโชคขายสมุนไพรที่เข้าเมล็ดสลอดทั้งๆที่ยังอยู่ในลักษณะที่ยังไม่แปรสภาพ แต่อาจถูกจับข้อหาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ เพราะ
1. ขายยาโบราณที่เป็นอันตราย
2. นายโชคไม่เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ
3. ขายยาตำรับอันตราย
4. ขายยาสมุนไพรที่เป็นอันตราย
ข้อ 3. ในกรณีผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ของผู้อนุญาตแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบ อนุญาติ
1. 15 วัน
2. 20 วัน
3. 25 วัน
4. 30 วัน
ข้อ 4. ผู้ใดผลิตยาปลอมต้องระวางโทษสถานใด
1. จำคุกหนึ่งปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
2. จำคุกตลอดชีวิต
3. จำคุกห้าปีและปรับห้าหมื่นบาท
4. จำคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท
ข้อ 5. ผู้รับอนุญาตผลิตยาหรือขายยาแผนโบราณนอกสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ในใบอนุญาตเว้นแต่เป็นการขายส่งจะมีโทษสถานใด
1. ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสามพันบาท
2. ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสามพันบาท
3. ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
4. ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
ข้อ 6.
การกระทำต่อไปนี้ ข้อใดเป็นการ "ขาย"
ตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับที่มีผลบังคับในปัจจุบัน1. การโฆษณายาโดยการร้องเพลง
2. การโฆษณาสรรพคุณยาอันตราย
3. การโฆษณายาแก้เบาหวานโดยตรงต่อผู้ประกอบโรคศิลปะ
4. การโฆษณายาโดยให้ผู้ประกอบโรคศิลปะเป็นผู้รับรองสรรพคุณ
ข้อ 2. นายโชคขายสมุนไพรที่เข้าเมล็ดสลอดทั้งๆที่ยังอยู่ในลักษณะที่ยังไม่แปรสภาพ แต่อาจถูกจับข้อหาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ เพราะ
1. ขายยาโบราณที่เป็นอันตราย
2. นายโชคไม่เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ
3. ขายยาตำรับอันตราย
4. ขายยาสมุนไพรที่เป็นอันตราย
ข้อ 3. ในกรณีผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตนั้น ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ของผู้อนุญาตแจ้งการไม่ออกใบอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบ อนุญาติ
1. 15 วัน
2. 20 วัน
3. 25 วัน
4. 30 วัน
ข้อ 4. ผู้ใดผลิตยาปลอมต้องระวางโทษสถานใด
1. จำคุกหนึ่งปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นถึงห้าหมื่นบาท
2. จำคุกตลอดชีวิต
3. จำคุกห้าปีและปรับห้าหมื่นบาท
4. จำคุกตั้งแต่สามปีถึงตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท
ข้อ 5. ผู้รับอนุญาตผลิตยาหรือขายยาแผนโบราณนอกสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ในใบอนุญาตเว้นแต่เป็นการขายส่งจะมีโทษสถานใด
1. ปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงสามพันบาท
2. ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสามพันบาท
3. ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
4. ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
1. การขายส่ง
2. การแจกยาเพื่อการค้า
3. การมีไว้เพื่อการขาย
4. ทั้งข้อ 1, ข้อ2, และข้อ 3
ข้อ 7. ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ห้ามมิให้โฆษณาขายยาในกรณีใด
1. โฆษณาโดยตรงต่อผู้ประกอบโรคศิลปะ
2. โดยแสดงภาพของผู้ป่วย
3. โดยผ่านอินเตอร์เนท
4. โดยแสดงภาพและคำรับรองสรรพคุณของผู้ประกอบโรคศิลปะ
ข้อ 8. ถ้าผู้ผลิตลักลอบผสมตัวยาเสตียรอยด์ลงไปในยาแผนโบราณตำรับที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ถือว่าเป็นการผลิต
1. ยาผิดมาตราฐาน
2. ยาปลอม
3. ยาแผนปัจจุบัน
4. ยาอันตราย
ข้อ 9. นายวิบูลย์จะขายยาแผนโบราณที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้มายื่นขอใบอนุญาตที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้อนุญาติ ให้วินิจฉัยว่านายวิบูลย์ปฎิบัติถูกต้องหรือไม่
1. ถูกต้องเพราะเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นผู้อนุญาติสำหรับการออกใบอนุญาติทุกชนิดทั่วราชอาณาจักร
2. ถูกต้องเพราะการออกใบอนุญาติสำหรับการขายยาผู้อนุญาติอาจเป็นเลขาธิการหรือผุ้ว่าราชการจังหวัดก็ได้
3. ไม่ถูกต้องเพราะผู้อนุญาติสำหรับการขายยาในต่างจังหวัดต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในเขตจังหวัดนั้น
4. ไม่ถูกต้องเพราะผู้อนุญาติสำหรับการขายยาคือปลัดกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ข้อ 10. นายสัญญาเป็นผู้รับอนุญาติขายยาแผนโบราณและผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยด้วย จะผลิตยาแผนโบราณสูตร ซึ่งพบว่าให้ผลการรักษาที่ดีมาก จึงได้มายื่นคำขอขึ้นทะเบียน ตำรับยากับพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ท่านวินิจฉัยว่า นายสัญญาจะขึ้น ทะเบียนตำรับยาได้หรือไม่
1. ได้ เพราะกฎหมายให้ผู้ที่จะขึ้นทะเบียนตำรับยาได้ต้องเป็นผู้รับอนุญาติผลิตหรือขายยา
2. ได้ เพราะนายสัญญาเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ มีสิทธิในการขอขึ้นทะเบียนตำรับยา
3. ไม่ได้ เพราะต้องขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเสียก่อน
4. ไม่ได้ เพราะตามกฎหมายผู้ที่จะขึ้นทะเบียนยาที่จะผลิตได้ต้องเป็นผู้รับอนุญาตผลิตยา
ข้อ 11. การโฆษณายาแบบใดที่ผุ้อนุญาตมีอำนาจอนุมัติข้อความที่โฆษณาได้
1. การโฆษณายาโดยการร้องเพลง
2. การโฆษณาสรรพคุณยาอันตราย
3. การโฆษณายาแก้เบาหวาน โดยตรงต่อผู้ประกอบโรคศิลปะ
4. การโฆษณาโดยให้ผู้ประกอบโรคศิลปะเป็นผู้รับรองสรรพคุณ
ข้อ 12. ถ้าผู้รับอนุญาตตาย และมีบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติอาจเป็นผู้รับอนุญาตได้ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ต้องแสดงความจำนงต่อ ผุ้อนุญาตภายในกี่วัน
1. 15 วัน
2. 7 วัน
3. 30 วัน
4. 25 วัน
ข้อ 13. นาย ก.จะทำยาสระผมโดยมีดอกอัญชันเป็นส่วนประกอบและแสดงสรรพคุณบนฉลากว่าใช้สระผมทำให้สวย กรณีเช่นนี้ ยาสระผมดัง กล่ววจะจัดเป็น "ยา" ตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะเหตุใด
1. เป็นยา เพราะมีการแสดงสรรพคุณเป็นยา
2. เป็นยา เพราะยาสระผมจัดเป็นยาแล้ว
3. เป็นยา เพราะอัญชันเป็นตัวยาสมุนไพร
4. ไม่เป็นยา เพราะยาสระผมเป็นเครื่องสำอางและไม่มีการแสดงสรรพคุณที่เป็นยา
ข้อ 14. นายเชี่ยวชาญเป็นผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบันที่ขึ้นทะเบียนตำรับยาไว้ ต่อมาต้องการแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบของฉลาก ยา กรณีนี้นายเชี่ยวชาญจะต้องดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้อง ตามกฎหมายยา
1. สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เพราะเป็นการแก้ไขส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ
2. ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบเมื่อมีการแก้ไขแล้ว
3. ต้องขอขึ้นทะเบียนตำรับยาใหม่
4. ต้องขอแก้ไขทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงจะทำได้
ข้อ 15. สหกรณ์บ้านนาสารได้สนับสนุนให้สมาชิกทำยาฟ้าทะลายโจร โดยนำฟ้าทลายโจรมาตากแห้งแล้ว จำหน่าย กรณีนี้ให้วินิจฉัยว่า จะ ต้องดำเนินการอย่างไร ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายยา
1. ต้องขอขึ้นทะเบียนตำรับยาก่อน จึงจะขายได้
2. ต้องขอใช้ฉลากยาก่อน จึงจะขายได้
3. ต้องขอมีทะเบียนยาก่อน จึงจะทำขายได้
4. สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องขึ้นทะเบียนตำรับยา เนื่องจากยาสมุนไพรได้รับยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนตำรับยา
ข้อ 16. ข้อใดจัดเป็นยาแผนโบราณตาม พ.ร.บ.ยา
1. ยาที่มุ่งหมายสำหรับการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ
2. ยาที่รัฐมนตรีประกาศเป็นยาแผนโบราณ
3. ยาที่ขึ้นทะเบียนตำรับยาถูกต้องแล้ว
4. ยาสมุนไพรที่มุ่งหมายใช้บำบัดโรคสัตว์
ข้อ 17. นายสุดหล้าเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเวชกรรมไทย ปรุงยาเพื่อขายให้กับผู้ป่วยของตน กรณีใด สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตผลิตยาตาม พ.ร.บ.ยา
1. ปรุงยาสูตรพิเศษที่คิดค้นขึ้นเอง
2. ปรุงยาตามตำรับแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
3. ปรุงยาตามหลักที่ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณใช้สืบต่อกันมา
4. ปรุงยาตามตำรับแบบไทย
ข้อ 18. ผู้รับอนุญาตผู้ใดเลิกกิจการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ต้องแจ้งการเลิกกิจการเป็นหนังสือให้ผู้รับอนุญาต ทราบไม่เกินกี่วัน นับแต่วันเลิกกิจการและให้ถือว่าใบอนุญาตหมดอายุตั้งแต่วันเลิกกิจการตามที่แจ้งไว้นั้น
1. 10 วัน
2. 15 วัน
3. 7 วัน
4. 5 วัน
ข้อ 19. พ่อหมอทองหล้าไม่ได้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะเก็บตัวยาสมุนไพรหลายชนิดมาหั่นและสับเป็นชิ้นๆ ใส่ถุงรวมกัน ปิดฉลากว่า "ยาโลหิตสตรี บำรุงร่างกาย ทำให้เลือดลมดี ประจำเดือนมาปกติ แก้มุตกิต" และนำไปขายในงานวัด พ่อหมอทองหล้ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา หรือไม่
1. ไม่ผิด เพราะเป็นการขายยาสมุนไพร กฎหมายยกเว้นให้ไม่ต้องขออนุญาตผลิตยา
2. ไม่ผิด เพราะเป็นการขายยาสมุนไพร ยังไม่ปรุงเป็นยา
3. ผิด เพราะแสดงสรรพคุณบนฉลากว่าเป็นยา โดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ข้อ 1 และ 2 ถูก
ข้อ 20. ตามความในพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 และฉบับที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบันได้ให้ผู้รับอนุญาตเกี่ยวกับยาประเภทใดบ้างที่สามารถ ขายยาแผนโบราณได้
1. ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณ
2. ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันและผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณ
3. ผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณ และผู้รับอนุญาตขายยาบรรจุเสร็จฯ
4. ผู้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันและผู้รับอนุญาตขายยาแผนโบราณ หรือผู้ที่รับอนุญาตขายยาบรรจุเสร็จฯ
ข้อ 21. นายสมชายเป็นผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนโบราณทำการแจกยาแก่ประชาชนเพื่อส่งเสริมการขายยาในงานนิทรรศการ เช่นนี้ นาย สมชายสามารถกระทำได้หรือไม่ เพราะเหตุใด
1. ไม่ได้ เพราะเป็นการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต
2. ไม่ได้ เพราะเป็นการขายยานอกสถานที่
3. ได้ เพราะเป็นการแจก ไม่ได้ขายยา
4. ได้ เพราะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้ยาแผนโบราณ
ข้อ 22. นายสมศักดิ์ขึ้นทะเบียนตำรับยาเม็ดลูกกลอนยาแผนโบราณไว้ตำรับหนึ่ง โดยระบุว่ามีน้ำหนักเม็ดละ 1 กรัม ต่อมาต้องการลดต้นทุน จึงเปลี่ยนทำน้ำหนักเม็ดยาเป็นเม็ดละ 0.8 กรัม ออกขายโดยไม่ได้แจ้งขอแก้ไขทะเบียนตำรับยา กรรณีนี้ นายสมศักดิ์มีความผิดตามกฎหมาย ยาหรือไม่ อย่างไร
1. ไม่เป็นความผิด เพราะไม่ได้แก้ไขสูตรยา
2. เป็น ความผิดฐานทำยาปลอม
3. เป็น ความผิดฐานทำยาผิดมาตรฐาน
4. เป็น ความผิดฐานทำยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
ข้อ 23. ในกรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญผู้รับอนุญาตต้องแจ้งต่อผู้อนุญาต เพื่อรับใบแทนใบอนุญาต ภายในกี่วัน
1. 5 วัน
2. 15 วัน
3. 20 วัน
4. 30 วัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น