วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยาอายุวัฒนะ

ตำรายาอายุวัฒนะ (ตำรายา ลายแทงปริศนา)
มีตำรายาอายุวัฒนะขนานหนึ่งสูตรเดิมเป็นตำราลายแทงจากเมืองพิษณุโลก ที่เขียนเป็นปริศนาไว้ ดังนี้ บางตำราเรียก เทพปริศนา เพราะต้องตีความให้ถูกต้องเสียก่อน

"หึ่งอากาศ พาดต้นไม้ หงายธรณี หนีสงสาร ไปนิพพานไม่กลับ"

เมื่อถอดรหัสตำรับยาอายุวัฒนะแล้วเห็นว่า มีส่วนประกอบอยู่ ๕ สิ่งมีตัวยา ๔ สิ่ง มีน้ำกระสาย ๑ สิ่งคือ
หึ่งอากาศ คือ น้ำผึ้ง
พาดต้นไม้ คือ บอระเพ็ด
  
หงายธรณี คือ หัวแห้วหมู     
หนีสงสาร คือ ขมิ้นชัน   บางท่านว่าหัวไพลบ้าง  ขมิ้นอ้อยบ้าง แต่น่าจะเป็นขมิ้นชัน เพราะพระใช้ขมิ้นชันย้อมจีวร บวชเพื่อหนีสงสาร  
ไปนิพพานไม่กลับ คือ ผักเสี้ยนผี

วิธีทำ ใช้ตัวยาน้ำหนักเท่าๆ กัน(ส่วนเสมอ) ยกเว้นน้ำผึ้ง เอามารวมกันบดทำผง ผสมน้ำผึ้งคือตัวน้ำกระสายยา ปั้นเป็นเม็ดขนาดพอควร อบความร้อนนานประมาณ ๔๕-๕๕ องศา นาน ๔-๖ ช.ม. เพื่อให้มีความสะอาดมากขึ้นและฆ่าเชื้อโรค

ตัวยาดังกล่าวนั้นมีสรรพคุณ ทำให้ผายลม บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้ปวดเมื่อย ทำให้นอนหลับ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ ถ้าคนเราสุขภาพดี
  ก็มีอายุยืนได้

ถึงแม้ว่ายาอายุวัฒนะจะมีสรรพคุณดังนั้นก็จริงอยู่ แต่ถ้าเราไม่รักษาสุขภาพของตัวเองไปด้วย ยาอายุวัฒนะก็ช่วยอะไรไม่ได้ ยาอายุวัฒนะบางขนานมีรสร้อน คนเป็นไข้กินไม่ได้ ถ้ากินเข้าไปพิษร้อนของไข้จะกำเริบมากขึ้นถึงตายได้ หรือเป็นอย่างอื่นแทรก ถ้าร่างกายแข็งแรงกินได้นอนหลับ ขับถ่ายเป็นปกติ คนเราทุกคนก็มีสุขดีเป็นตามธรรมชาติ

แต่ถ้ามีโรคภัยไข้เจ็บแล้วก็ต้องรักษาให้ถูกต้อง อย่าหลงกินยาอายุวัฒนะอยู่ เดี๋ยวจะคิดว่ากินยาอายุวัฒนะแล้วอายุจะยืนยาว ไม่ใช่นะคะ เราต้องรักษาต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคนั้นให้หายเสียก่อน แล้วค่อยมากินยาอายุวัฒนะซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายเราแข็งแรงยิ่งขึ้น

             
บางตำราก็ใช้ยาอายุวัฒนะเป็นยารักษาก่อนเพื่อเป็นการสร้างร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อโรคได้ดีก่อน แล้วจึงรักษาอาการป่วยที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายได้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นโรคเรื้อรัง เช่นความดันสูง เบาหวาน อัมพฤกต์อัมพาต โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคผอมแห้ง โรคอ้วน แก่เร็วเกินไป พวกนี้ล้วนเกิดจากร่างกายขาดความสมดุลย์ ธาตุไม่ปกติ ยาอายุวัฒนะเข้าไปสร้างธาตุให้ปกติโดยสรรพคุณหลักก็คือ กินได้ นอนหลับ ขับถ่ายคล่อง ท้องไม่ผูก ร่างกายอุดมสมบูรณ์การหมุนเวียนโลหิตก็ดี น้ำเลือดน้ำเหลืองก็สมบูรณ์ดี ผิวพรรณสวยสดงดงาม โรคภัยก็ไม่มี

ร่างกายเรานี้เป็นโรงงานวิเศษ รู้จักคัดแยกดูดซึมเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ไปใช้ด้วยความเหมาะสม ถ้าธาตุผิดปกติประสิทธิภาพในการคัดเลือกแจกจ่ายมันก็เสียหาย

การฟื้นฟูสุขภาพจึงต้องฟื้นฟูธาตุให้สมดุล ยาอายุวัฒนะทุกขนานล้วนเป็นยาปรับธาตุทั้งนั้น ฉะนั้นการกินยาขึ้นอยู่กับธาตุของแต่ละบุคคล เช่น ถ้าธาตุไฟมาก แล้วไปกินยาร้อน แทนที่จะดีจะเจ็บป่วยเอา ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เป็นคนหนุ่มแล้วไปกินยาคนแก่ แทนที่จะดีก็กลับจะแย่เป็นต้น ฉะนั้นปรึกษาผู้รู้ก่อนใช้ยาดีที่สุดค่ะ

ที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน , หมอเมือง (อภิญญา  สันยาสี ภบ.)
        : อาจารย์ธวัช  เข็มครุฑ อาจารย์สอนเภสักรรมไทยของสมาคมฯได้ให้ไว้ในวันไหว้ครู ปี๒๕๕๓ค่ะ

อีกตำรับเป็นของดั้งเดิมแท้กล่าวไว้เป็นปริศนาดังนี้

ผึ้งอากาศ พาดยอดไม้ หงายธรณี ลูกทาส ลูกไทย พญาช้างดำ พระยาช้างเผือก บวชหนีสงสารไปนิพพานไม่กลับ

เฉลย ผึ้งอากาศ คือน้ำผึ้ง พาดยอดไม้ คือเถาบอระเพ็ด หงายธรณี คือหญ้าแห้วหมู  ลูกทาส คือเม็ดข่อย ลูกไทย คือพริกไทย พญาช้างดำ คือเปลือกตะโกนา พระยาช้างเผือก คือเปลือกถ่อน (ต้นทิ้งถ่อน) บวชหนีสงสาร คือขมิ้นหัวขึ้น (ขมิ้นอ้อย) ไปนิพพานไม่กลับ คือผักเสี้ยนผี
วิธีทำ นำตัวยาทั้งหมดมาอย่างละเท่าๆ กัน ตากแห้งแล้วบดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ดลูกกลอน  ขนาดเท่าเม็ดพุทรา แล้วตากให้แห้งจึงเก็บได้นาน กินครั้งละ ๑-๒ เม็ด วันละ ๑-๒ ครั้ง


ขอฝากเพิ่ม เรื่องที่มาของคำว่าผักเสี้ยนผี
***โบราณท่านว่าจะปลูกผักเสี้ยน เลือกเอาคืนเดือนมืด ลงไปบริเวณที่จะปลูก จะเตรียมดินก่อนหรือไม่ ไม่สำคัญ เอาภาชนะอะไรก็ได้มา ใบ จากนั้น แก้ผ้านุ่ง (ท่านว่าอย่างนี้จริงๆนะ) แล้วกระเดียดภาชนะออกไปที่ ที่จะปลูก มือทำเป็นหยิบเมล็ดผักเสี้ยนออกจากภาชนะ แล้วหว่านออกไป ให้รอบๆ ปากก็ร้องว่าปลูกผักเสี้ยนจ้าๆ ไม่นานพอฝนตก จะมีผักเสี้ยนงอกขึ้นมาเอง เป็นเรื่องแปลก ท่านเลยว่า ผักเสี้ยนผี (สงสัยผีจะมาดู และช่วยปลูก) ลองทำดูก็ได้นะ ถ้าปลูกขึ้นแปลว่า เป็นผักเสี้ยนผีของแท้…***
สุนันทา   เอมดวง เรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น