วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557

Case Study (๑)

กรณีศึกษาผู้ไข้ ที่คลินิกการแพทย์แผนไทย หม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร
แพทย์แผนไทยผู้ตรวจ คมสัน ทินกร ณ อยุธยา
ผู้ไข้มาพบแพทย์เมื่อเดือน มกราคม ๒๕๕๗

ประวัติผู้ไข้ 
เพศหญิง อายุ ๔๓ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน อยู่ในครรภ์มารดาเข้า ๘ เดือน กำเนิดที่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบัน พำนักที่กรุงเทพมหานคร สถานภาพ แต่งงาน บุตร ๒ คน (ไม่อยู่ไฟ และผ่าคลอด) อาชีพ ตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางในธุรกิจธนาคาร รูปร่างผอมไม่บางมาก มีผมหงอกประปราย มาพบแพทย์แผนไทยด้วยอาการตึงคอบ่าไหล่

ผลการวินิจฉัยของแพทย์
คำณวนหาธาตุเจ้าเรือนได้ดังนี้ ธาตุปฎิสนธิ ไฟ ธาตุกำเนิด ลม ประเทศสมุฎฐาน นครราชสีมา ลักษณะธาตุ
เจ้าเรือนเมื่อมาพบแพทย์ ลม อริยาบทสมุฎฐาน นั่ง อาชีพสมุฎฐาน ความเครียด ครอบครัวสมุฎฐาน ความวิตก
กังวล จากอายุสมุฎฐาน วาตะกำเริบ

จากธาตุเจ้าเรือน ไฟ/ลม วินิจฉัยได้ดั่งนี้ มีภาวะกำเดาอุ่นกายมากกว่าปรกติ ลมกองขึ้นบนจักตามมา มีภาวะเลือดตีขึ้นบน พัทธะปิตตะหย่อน ทำให้มีอาการทางพัทธะปิตตะกำเริบ มีอัตราเสี่ยง เบาหวาน,ไขมัน มีลมกองในไส้นอกไส้กำเริบ อาจมีภาวะเรอเหม็นเปรี้ยวร่วมด้วย มีภาวะท้องผูกบ่อยๆ
จากประเทศสมุฎฐาน วินิจฉัยได้ดั่งนี้ มีภาวะลมในไส้ลมนอกไส้กำเริบได้ง่าย มีอัตราเสี่ยง นิ่วในระบบ
ทางเดินปัสสาวะ มีภาวะศอเสลด
จากธาตุเจ้าเรือนเมื่อมาพบแพทย์ วินิจฉัยได้ดั่งนี้ มีภาวะลมในไส้นอกไส้ แล้วแปรเป็นลมตีขึ้นบน
จากอริยาบทนั่ง วินิจฉัยได้ดั่งนี้ กลุ่มอาการออฟฟิส ซินโดรม
จากอาชีพและครอบครัวสมุฎฐาน วินิจฉัยได้ดั่งนี้ เกิดกำเดาอุ่นกาย เกิดลมตีขึ้นบนตามมา หนักหัว
มึนหัว ปวดลมปะกัง นอนหลับยากตื่นนอนเร็ว เพลียเหนื่อย ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ไม่สบายเนื้อตัว
จากอายุสมุฎฐาน วินิจฉัยได้ดั่งนี้ กองลมจักวิ่งวิปริตในช่องท้อง ท้องอืดเฟ้อเรอเปรี้ยว
นอกจากนั้นผลกระทบจากการไม่อยู่ไฟหลังคลอด จากอายุ จากอาชีพ จากอริยาบท จากธาตุปฎิสนธิ
วินิจฉัยเพิ่มเติมได้ว่า มีภาวะมดลูกหย่อนคล้อย เอียงไปด้านขวา(จากการสังเกตุไหล่ทรุดไปด้านซ้าย) มีมุตกิจ
แทรกในเนื้อประจำเดือน มีภาวะเสี่ยงปะระเมหะ(ซีส) หรือก้อนเนื้อ หรือผังผืดจับยึด เหตุที่กระทำให้ตึงคอบ่าไหล่ก็มาแต่เหตุมดลูกเคลื่อนและจากอาชีพจากอริยาบทประกอบกันไป

การสั่งวางยารักษา
รุ ตะกรันในโลหิตและน้ำเหลือง (ยาพิษพินาศ)
เถาดานในช่องท้อง จากอาการท้องผูกเรื้อรัง (ยาธรณีไหว)
กำเดาอุ่นกาย (ยาเขียวประกายพฤกษ์)
ระบบมดลูก (ยาไฟประลัยกัลป์)

ล้อม ลมบนให้ลงล้าง (ยาหอมเทพจิตรารมย์)
ลมในไส้แลนอกไส้ (ยาอากาศบริรักษ์ และยาอนันตธาตุ)
ฟอกโลหิตระดู (ยาน้ำเกลือ)
ขับลมในเส้น ในโพรงกระดูก ( ยามหาสันนิบาตุ และยามหาโมคจร)


รักษา ล้อมตับ ดับพิษตับ (ปิตตะ) ยากล่อมนางนอน
อาการเรอเปรี้ยว (วาตะ) ยาเรอเหม็นเปรี้ยว
โลหิตังแลบุพโพ (เสมหะ) ยาพิษพินาศ

บำรุง โลหิตัง แลโลหิตระดู (ยาโลหิตาธิคุณ และยาสัตรีโลหิตา,ยาจันทร์งามจรัส)
ให้นอนหลับได้ดีขึ้น ทำให้ใจชุ่มชื่นขึ้น (ยาหอมกล่อมอารมณ์)
บำรุงตับให้แข็งแรง วางเป็นน้ำกระสายยาพัทธะปิตตะ

การสั่งเวชปฎิบัติ
ในขั้นตอนรุ พอกโคลนยาบริเวณท้องและศีรษะ ประมาณ 3 ครั้ง ห่างทุก 3 วัน
ในขั้นตอนล้อม เผายาบริเวณช่องท้อง ในแนวจุดเริ่มเส้นประธานสิบ ทำครั้งเดียว
พอกโคลนบริเวณศีรษะ ให้ห่างจากเผายา 1 ชม.
ในขั้นตอนรักษา นาบหม้อเกลือ 2 ครั้งห่างกัน 3 วัน แล้วกระทำโกยมดลูก 3 ครั้ง
ใช้หัตถบำบัดกระจายเลือดแลลม แลเส้นเอ็นผังผืด

ผลของการรักษา
จากการวางยาแลการเวชปฎิบัติ ใช้เวลาประมาณ ๒ เดือน ผลของการรักษา ผู้ไข้มีปิตตะลดลง
วาตะปรกติ เสมหะบริบูรณ์ หน้าตาแจ่มใส รอยฝ้าบนใบหน้าจางลง รูปร่างสมวัยสมอายุ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
แพทย์ยังวางยาตามอาการให้ผู้ไข้วางยาตนเองตามอาการเมื่อเกิด
เมื่อเกิดกำเดาอุ่นกาย (ยาแดงดับพิษ)
เมื่อเกิดลมในไส้ อาหารไม่ย่อย (ยาอากาศบริรักษ์)
เมื่อเหนื่อยเพลีย (ยาหอมภูลประสิทธิ์ และยาหอมมหาสีสว่าง)
เมื่อวิตกกังวล นอนหลับยาก (ยาหอมกล่อมอารมณ์)
พร้อมวางยาบำรุงโลหิต บำรุงผิว ต่อเนื่องไปอีกสักหนึ่งเดือน (ยาโลหิตาธิคุณ และยาจันทร์งามจรัส)

ผู้ทำการรักษา คณะแพทย์แลผู้ช่วยแพทย์ คลินิกหม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร สาขาบ้านอารีย์ กรุงเทพมหานคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น