วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

กินตามธาตุ

ดูแลตัวเองไม่ให้ป่วยด้วยการกินตามธาตุเจ้าเรือน
แนวคิดกินตามธาตุมาจากทฤษฎีการแพทย์แผนไทยที่เชื่อว่าคนเราเกิดมาในร่างกายที่ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ แต่จะมีเพียง ๑ ธาตุที่แสดงลักษณะเด่นประจำตัว เรียกว่าธาตุเจ้าเรือนซึ่งมี ๒ ลักษณะ คือ ธาตุเจ้าเรือนเกิดที่เป็นไปตามวันเดือนปีเกิด และธาตุเจ้าเรือนปัจจุบันที่สังเกตจากบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย กับปัญหาสุขภาพกายกับใจของแต่ละคน หากธาตุทั้ง ๔ ในร่างกายมีความสมดุล จะไม่เจ็บป่วยบ่อย แต่หากขาดความสมดุล ก็มักจะเจ็บป่วยได้ง่าย และเพื่อป้องกันปัญหาโรคภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ เราจึงควรปรับพฤติกรรมการกินโดยใช้รสชาติต่างๆ ของอาหารประจำธาตุ ถ้าพิจารณาในแต่ละธาตุจะพบว่ามีการกินที่แตกต่างกัน เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพที่ไม่เหมือนกัน
"วิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบธาตุเจ้าเรือนคือ การยึดตามเดือนเกิด ก็สามารถทำนายได้ว่าในอนาคตเราจะป่วยเป็นโรคอะไร หากไม่ดูแลตัวเองอย่างดี หรือไม่กินอาหารตามธาตุเจ้าเรือนเกิด"

ธาตุดิน คือผู้ที่เกิดในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม
ธาตุน้ำ คือผู้ที่เกิดเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน
ธาตุลม คือผู้ที่เกิดเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน
ธาตุไฟ คือผู้ที่เกิดเดือนมกราคม กุมภาพันธุ์ และมีนาคม
·                  ธาตุดิน มักจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน อาการปวดตามข้อ โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคเกี่ยวกับระบบน้ำย่อย ควรกินอาหารรสฝาดเพื่อช่วยสมานปิดธาตุ (แต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะจะทำให้ฝืดคอ ท้องอืด และท้องผูก) อาหารรสหวาน เพราะมีสรรพคุณซึมซาบตามเนื้อ ทำให้ชุ่มชื่นบำรุงกำลัง (ไม่ควรกินมากเกินเพราะจะทำให้ง่วงนอน และเกียจคร้าน) อาหารรสมันเพื่อแก้เส้นเอ็นพิการ ปวดเสียว ขัดยอก และกระตุก และอาหารรสเค็ม เพราะมีสรรพคุณซึมซาบไปตามเนื้อ ช่วยการดูดซึมอาหาร ป้องกันการเสื่อมของเส้นเอ็น และกระดูก นอกจากนี้ ควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้น้อย เพราะร่างกายจะเผาผลาญได้ไม่หมด และควรออกกำลังเป็นประจำ
·                  ธาตุน้ำ มักมีปัญหาเสมหะเป็นพิษ จึงควรกินอาหารรสเปรี้ยวเพื่อกัดฟอกเสมหะ ส่วนปัญหาสุขภาพอื่นๆ เหมือนธาตุดิน (เนื่องจากเป็นธาตุที่เอื้อกัน) เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระบบทางเดินหายใจ และโรคอ้วน ในกรณีที่ธาตุน้ำมากจะมีเสมหะและน้ำมูกคล้ายจะเป็นหวัด เพราะร่างกายต้องการขับน้ำออกมา ในช่วงอายุแรกเกิดถึง ๑๖ ปี มักจะมีอาการเป็นหวัด คัดจมูก ตาแฉะ ในฤดูหนาวจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุน้ำกำเริบ จึงควรกินอาหารประเภทแป้งขาวให้น้อยเช่นกัน
·                  ธาตุลม ปัญหาด้านสุขภาพของคนธาตุเจ้าเรือนนี้ คือนอนไม่ค่อยหลับ ปวดท้อง จุกเสียด ระบบภายในมีความเป็นกรดมาก และระบบย่อยอาหารไม่ดี เนื่องจากลักษณะนิสัยที่กินไม่ตรงเวลา บางรายอาจมีปัญหาโรคข้อและกระดูก ควรกินอาหารรสเผ็ดร้อนเพื่อแก้ลมจุกเสียด และช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น แต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียได้ ในช่วงอายุ ๓๒ ปีขึ้นไป มักจะมีอาการเวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลมง่าย ในฤดูฝนจะเจ็บป่วยง่ายเพราะธาตุลมกำเริบ ควรกินอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ให้น้อย เพราะระบบการย่อยไม่แข็งแรง
·                  ธาตุไฟ ปัญหาสุขภาพคือ เครียดง่าย โรคกระเพาะอาหาร ผิวหนังแพ้ง่าย ท้องเสียบ่อย ร้อนใน เป็นฝี และมีแผลในปาก ในช่วงอายุ ๑๖-๓๒ ปี มักจะหงุดหงิดง่าย และอารมณ์เสียบ่อย ในฤดูร้อนจะเจ็บป่วยบ่อย อาจเป็นไข้ตัวร้อนได้ง่าย เพราะธาตุไฟกำเริบ ควรกินอาหารรสขมแก้โลหิตเป็นพิษ (หากกินมากไปจะทำให้อ่อนเพลีย) และอาหารรสเย็นเพื่อแก้ไข้ ร้อนใน ไข้พิษ และดับพิษร้อน และควรกินอาหารจำพวกไขมันให้น้อย แม้ว่าร่างกายจะเผาผลาญเนื้อสัตว์ได้ดี แต่หากกินไขมันที่ย่อยยาก จะทำให้มีความร้อนในร่างกายมากเกินไปจนป่วยไข้ได้
กินอาหารให้ครบทั้ง ๔ ธาตุ (และครบทั้ง ๕ หมู่) โดยกินอาหารตามธาตุของตัวเองให้มากที่สุด หากปฏิบัติตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นค่ะ หมั่นดูแลสุขภาพก็จะทำให้ไม่เจ็บ ไม่ป่วย อาหารทุกรสมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานจนอิ่มมากเกินไป หรือทานรสชาติเดิมๆซ้ำซากจนเกินไป เพราะจะให้เกิดโทษได้ ควรทานแต่พอดี จะได้ประโยชน์มากที่สุด
*******************************
จากนิตยสารชีวจิตฉบับที่ 226

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น