วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การสะตุ

การสะตุ  หมายถึง
      การทำให้ตัวยามีฤทธิ์อ่อนลง หรือ ทำให้พิษของตัวยาน้อยลง หรือทำให้ตัวยานั้นสะอาดขึ้น หรือทำให้ตัวยานั้นสะอาดปราศจากเชื้อโรค หรือ ทำให้ตัวยานั้นสลายตัวลง เช่น เกลือเมื่อสะตุแล้ว จะละเอียดลง ผสมยาง่ายขึ้น และฤทธิ์อ่อนลง เป็นต้น
.การสะตุเหล็ก
Ø เอาเหล็กมาครางด้วยตะไบ นำผงเหล็กที่ได้ มาใส่ในฝาละมี หรือหม้อดิน
Ø บีบน้ำมะนาวลงไปให้ท่วมผงเหล็ก    ตั้งไฟให้แห้ง
Ø ทำให้ได้  7 - 8  ครั้ง จนผงเหล็กกรอบดีแล้ว      จึงนำไปใช้ปรุงยา
๒.การสะตุสารส้ม
Ø เอาหม้อดินตั้งบนเตาไฟให้ร้อนจัด
Ø นำสารส้มมาตำให้ละเอียด แล้วเทใส่หม้อดิน ปิดฝาไว้
Ø เมื่อสารส้มละลายฟูขาวดีแล้วยกลงจากเตา   จึงนำมาใช้ปรุงยาได้
. การสะตุดินสอพอง
Ø เอาหม้อดินตั้งบนเตาไฟให้ร้อนจัด
Ø นำดินสอพองมาตำให้ละเอียด แล้วเทใส่หม้อดิน  ปิดฝาไว้
Ø เมื่อดินสอพองสุกดีแล้วยกลงจากเตา   จึงนำมาใช้ปรุงยาได้
. การสะตุน้ำประสานทอง
Ø เอาหม้อดินตั้งบนเตาไฟให้ร้อนจัด
Ø นำน้ำประสานทองมาตำให้ละเอียด แล้วเทใส่หม้อดิน  ปิดฝาไว้
Ø เมื่อน้ำประสานทองละลายฟูขาวดีแล้ว  ยกลงจากเตา   จึงนำมาใช้ปรุงยาได้
Ø น้ำประสานทอง  เป็นพิษต่อเซลล์ทุกชนิด
Ø การบริโภคติดต่อกันนาน จะทำให้ทางเดินอาหารอักเสบ เกิดการทำลายเนื้อเยื่อของตับและไต ทำให้มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาเจียน ท้องเดิน ผมร่วง โลหิตจางและชัก
. การสะตุมหาหิงคุ์
Ø นำมหาหิงคุ์มาใส่ภาชนะไว้
Ø เอาใบกะเพราแดงใส่น้ำต้มจนเดือด  เทน้ำใบกะเพราแดง ต้มลงละลายมหาหิงคุ์
Ø แล้วนำมากรองให้สะอาด จึงนำมาใช้เป็นยาได้
. การสะตุรงค์ทอง
Ø ทำความสะอาดใบข่าเช็ดให้แห้ง
Ø ทำความสะอาดใบบัวเช็ดให้แห้ง 
Ø ชั่งรงค์ทองจำนวน 100 กรัม นำมาตำหรือบดให้ละเอียด
Ø เอาใบข่าวางบนใบบัวเรียงให้เป็นระเบียบ
Ø นำรงค์ทองที่ตำละเอียด มาใส่บนใบข่าที่จัดวางเรียบร้อยแล้ว 
Ø ห่อรงค์ทอง เป็นรูปสี่เหลี่ยม  ใช้ไม้กลัดเพื่อยึดขอบให้เรียบร้อย
Ø นำรงค์ทองที่ห่อไว้แล้ว ย่างไฟบนตะแกรง ประมาณ 1 ชั่วโมง
Ø เมื่อย่างได้ที่ นำลงจากตะแกรง   แกะใบบัวและใบข่าออกผึ่งไว้ให้เย็น และแห้ง
Ø จะได้รงค์ทองสีน้ำตาลแดง เป็นแผ่นเนื้อเดียวกัน
. การสะตุยาดำ
Ø นำยาดำใส่ในหม้อดินหรือกระทะเหล็ก เติมน้ำเล็กน้อย
Ø ยกขึ้นตั้งไฟจนยาดำนั้นกรอบดี  ยกลงจากเตา
Ø ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาใช้ปรุงยาได้
๘. การสะตุเกลือ
Ø เอาหม้อดินตั้งบนเตาไฟให้ร้อนจัด
Ø นำเกลือมาตำให้แหลกละเอียด แล้วเทใส่หม้อดิน  ปิดฝาไว้
Ø เมื่อเกลือสุกและแห้งดีแล้ว ยกลงจากเตา
Ø ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ขวดโหลแก้วปิดฝา 
. การสะตุเปลือกหอย
Ø นำเปลือกหอยใส่ในหม้อดิน
Ø ตั้งไฟไปเรื่อยๆ จนเปลือกหอยนั้นสุกดีเป็นสีขาว  เผาจนเป็นผง  หรือนำมาตำให้ละเอียดแล้วร่อนเอาผงที่ละเอียดมาปรุงเป็นยา
หอยชนิดต่างๆที่ใช้ทำยารักษาโรค 
๑) หอยกาบ 
๒) หอยขม  
๓) หอยแครง  
๔) หอยจุ๊บแจง  
๕) หอยตาวัว  
ประโยชน์  ขับลมในลำไส้  ล้างลำไส้  แก้กะษัย  ขับนิ่ว  ขับปัสสาวะ  แก้ไตพิการ  บำรุงกระดูก 
๑๐. การสะตุหัวนกแร้ง
Ø หัวนกกา หนัง กระดูก กีบ ไส้เดือน หรืออวัยวะของสัตว์ที่ไม่มีพิษต่าง ๆ   นำสิ่งที่จะสะตุ ใส่ในหม้อดินปิดฝา
Ø ยกขึ้นตั้งไฟจนกรอบดี แล้วจึงยกลงจากเตา
Ø ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาใช้ปรุงยาได้
๑๑. การสะตุหรือ ฆ่าหัวงูเห่า
Ø หัวงูทับทาง อวัยวะของสัตว์ที่มีพิษ นำสิ่งที่จะสะตุใส่ลงในหม้อดิน ปิดฝาให้สนิท   ยาแนวด้วยดินสอพอง  ผสมน้ำพอข้น
Ø สุมด้วยไฟแกลบ หรือถ่านไว้ตลอดคืน

Ø ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาใช้ปรุงยาได้

การฆ่าฤทธิ์ชาดก้อน (การฆ่าชาดก้อน)

วัตถุส่วนประกอบและอุปกรณ์

1.   ชาดก้อน นำมาบดให้ละเอียด (ชาดผง)
2.   น้ำมะกรูด (หรือน้ำมะนาว)
3.   ฝาหม้อดิน
4.   ไม้พาย (ขนาดเล็ก)
5.   เตาถ่าน
6.   ขวดโหลแก้ว

ขั้นตอนการทำ 

1.   นำฝาหม้อดินตั้งบนเตาไฟ ให้ร้อนจัด เอาชาดผงใส่ในหม้อดินพอสมควร


2.   บีบน้ำมะกรูด ครั้งที่ 1 ให้ชุ่มชาดผง ตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ จนแห้ง ทำครบ 3 ครั้ง ชาดผงจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงอมดำ (สีเข้มกว่าเดิม)

3.   ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ขูดออกจากฝาหม้อดิน เก็บใส่ไว้ในขวดโหลแก้ว ปิดฝา

หมายเหตุ...   ชาดก้อนที่ได้จากการฆ่าฤทธิ์แล้ว มีลักษณะสีม่วงดำ เกล็ดเงาๆ จะหายไป เนื้อเป็นผงละเอียด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น