วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สรุปคัมภีร์ตักศิลา

สรุปคัมภีร์ตักศิลา      คัมภีร์ที่กล่าวถึงลักษณะอาการ การรักษาไข้ต่างๆ ไข้พิษไข้กาฬ

ลักษณะ
ไข้พิษไข้กาฬ
ไข้พิษ  เกิดเป็นไข้ ภายใน ตัวร้อนจัดมักมีอาการหนัก  
กาฬ ผลของการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งมีลักษณะอาการปรากฏทั้งภายในและนอก
กาฬภายนอก โรคที่แสดงโดยเป็นฝีเม็ด ผื่น แผ่น วง เม็ดทราย ที่มีสีดำ    แดง ขาว เขียว คราม หรือสีอื่นๆ ที่ขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย
   กาฬภายใน สังเกตได้จากลักษณะของสิ่งขับถ่ายและลักษณะอาการของ
 ผู้ป่วยไข้พิษ เกิดเป็นไข้ ภายใน   
 ตัวร้อนจัด  มักมีอาการหนัก
การรักษาไข้พิษไข้กาฬ
ให้แพทย์ใช้ยากระทุ้งพิษให้สิ้น  ถ้ากระทุ้งพิษไม่หมด  จะกลับลงไปกินตับกินปอด  ให้ถ่ายออกเป็นเสมหะ โลหิต ทำพิษต่าง เช่นขัดปัสสาวะ อาเจียนเป็นโลหิต ไอ ร้อนในกระหายน้ำ หอบสะอึก ชัก บางทีให้ปิตตะกำเริบให้เหลืองทั่วกาย
  การรักษาไข้พิษ ไข้กาฬ มีข้อห้ามดังนี้    ๑-๓ห้ามวางยารสร้อน ,เผ็ด,เปรี้ยว       .ห้ามประคบ   .ห้ามกินส้มผิวมีควัน,กะทิน้ำมัน   .ห้ามปล่อยปลิง .ห้ามถูกน้ำมัน  ๘. ถูกเหล้า .ห้ามกิน,อาบ น้ำร้อน ๑๐.ห้ามนวด
ยารักษาไข้พิษ ไข้กาฬ  ๑. ยากระทุ้งพิษ  -ยาแก้วห้าดวง (เบญจโลกวิเชียร ,๕ราก,แก้ว๕ ดวง,เพชรสว่าง) กระทุ้งพิษ
 .ยาประสะผิวภายนอก  .ยาพ่นภายนอก ๔.ยาพ่นและยากิน    .ยาแปรไข้  ๖.ยาพ่นแปรผิวภายนอก (รักษาผิว) .ยาครอบไข้ตักศิลา  (รักษาไข้,ลมปลายไข้)






ไข้พิษไข้กาฬ ๒๑ 
จำพวก
.ไข้อีดำ ผุดเท่าใบเทียน ใบพุทราสีดำ ให้ตัวร้อนเป็นเปลว
๒ไข้อีแดง เหมือนไข้อีดำ สีแดงแต่เบากว่า
.ไข้ปานดำ ผุดเท่าวงสะบ้า สีดำ ให้ตัวร้อนเป็นเปลว
ไข้ปานแดง ผุดเท่าวงสะบ้า สีแดงเหมือนไข้ปานดำ แต่เบากว่า
.ไข้ดานหิน  ผุดต้นขา สีเขียว
  ให้ตัวเย็นดังหิน 
.ไข้มหาเมฆ  ผุดในเนื้อ สีเหมือนเมฆให้เชื่อมมัว คางแข็ง 
ไข้มหานิล  ผุดในเนื้อ สีดำเหมือนนิล เหมือนไข้มหาเมฆ 
.ไข้ระบุชาด ผุดขึ้นสีแดงเหมือนชาด ให้เชื่อมมัว ร้อนใน
.ไข้สายฟ้าฟาด ผุดเป็นริ้ว ตามตัวให้ตัวร้อน  เชื่อมมัว  สลบ
๑๐.ไข้ไฟเดือนห้า ผุดที่อก ดำ แดง  กระหาย   เชื่อมมัว  สลบ
๑๑.ไข้เปลวไฟฟ้า จับอก จมูก หน้า ดำปาก ฟัน ลิ้นแห้ง สลบ
๑๒.ไข้ข้าวไหม้น้อย เหมือนมดกัดยอดแหลมขาว  ให้ตัวร้อนเป็นเปลว  คางแข็ง 
๑๓.ไข้ข้าวไหม้ใหญ่ เหมือนมดกัดยอดแหลมขาว  (พิษแรงกว่าข้าวไหม้น้อย )
๑๔.ไข้กระดานหิน ผุดทั้งตัวเหมือนลมพิษ  ปวดศีรษะมาก  ตาแดง
๑๕.ไข้สังวาลย์พระอินทร์ ผุดเป็นแถวหญิงซ้ายชายขวา  ให้หอบ  สะอึก
๑๖.ไข้ข้าวไหม้ใบเกรียม ผุดเหมือน ผลตำลึงสุก  ปวดศีรษะมาก  ตาแดง  ร้อน 
๑๗.ไข้ดาวเรือง ผุดเหมือนลายโคมครึ่งลูก ให้ตัวร้อน ปวดศีรษะ  ตาแดง
๑๘.ไข้หงษ์ระทด  ไม่ผุด แต่เกรียมไปทั้งตัว ให้ตัวร้อนเป็นเปลว เชื่อมซึม
๑๙๒๑.ไข้จันทร์สูตร,สุริยสูตร  ,เมฆสูตร       ทำพิษให้สลบเมื่อมี ดวงจัทร์,ดวงอาทิตย์ เมฆ








ไข้กาฬ

ไข้ราก
สาด 
จำพวก
จับให้ มือเย็น ตัวร้อน ปวดศีรษะ  ตาแดง เพ้อ ชัก  หมดสติ   ภายใน ให้ลง,ไอ,อาเจียน เป็นโลหิต เสมหะเน่า
.ปานขาว ผุด ขาวเหมือนสีน้ำข้าว 
ปานแดง 
 ผุดแดงเป็นหมู่
ปานเหลือง 
ผิว เหลือง ลิ้นเหลือง 
ปานดำลิ้นดำ
ปานเขียว
ลิ้นเขียว
ปานม่วง 
  สีเหมือนผักปรังสุก
๗นางแย้ม  
เหมือนดอกนางแย้ม
.พนันเมือง 
  เหมือนตัวปลิง
.สามสหาย
 เหมือนเท้าสุนัข



ไข้กาฬ
๑๐
จำพวก
.ประกายดาด
 ผุดเหมือน
  ฝีดาด
.ประกายเพลิง เม็ดใหญ่กว่า
  ประกายดาด
. ออกหัดเหมือน
  เม็ดทรายยอด
 แหลมหลบให้ลง
.ออกเหือด
 คล้ายหัด ยอด
 ไม่แหลม 
.งูสวัด ผุดเป็นเม็ดทรายป็นแถว
 หญิงซ้าย ชายขวา
.เริมน้ำค้าง ผุด
 เป็นแผ่น น้ำใส 
.เริมน้ำข้าว 
 ผุดสีขาวขุ่น
.ลำลาบเพลิง
 ผุดเป็นแผ่น สีแดง 
.ไฟลามทุ่ง ผุด
  เป็นแผ่นรวดเร็ว
๑๐.กำแพงทะลาย
 ผุดหัวเดียว
ให้สะท้านร้อนหนาว  เชื่อมมัว  ปวดศีรษะ  ตาแดง


ฝีกาฬ
๖ ชนิด
.กาฬมะเร็งนาคราช  เกิดที่หัวแม่มือเท่าถั่วเขียว ถั่วดำ  ผักปลังเชื่อมมึนเหมือนถูกไฟให้มือดำให้กลุ้ม หัวใจแน่นิ่ง
กาฬฟองสมุทร    ผุดตามช่องอก  ราวนม เท่าวงสะบ้า เขียว,ดำ ลิ้มนกระด้างคางแข็งจับแน่นิ่ง
.กาฬตะบองพะลำ
 ขึ้นที่ขา หนีบ ที่ลับ 
 ๑นิ้ว สีแดง ดำเขียว ลิ้น คางแข็ง
.กาฬแม่ตะงาว     ผุดยาวรี ที่ขาหนีบ ต้นขา ที่ลับ รักแร้ทำพิษให้สลบ ใช้เทียนส่องดู
.ตะบองชนวน ผุดเท่าหวายตะคร้า เอว ก้นกบขา ทั้งสอง ที่ลับ ท้องน้อย ดำ แดง เขียว ให้สลบ ลิ้น คางแข็ง
.กาฬตะบองกาฬ ผุดราว
ข้าง บั้นเอว ลำคอ เท่าผลมะตูมขยับตัวไม่ได้ 
อาการจับ ให้สะท้านร้อนหนาว  เชื่อมมัว  ปวดศีรษะ  ตาแดง    ปาก  ฟัน ลิ้น แห้ง หอบสะอึก สลบ คลั่ง ละเมอ  ลิ้นกระด้างคางแข็ง เคลื่อนไหวตัวก็ไม่ได้
ไข้
กระโดง/
ไข้กาฬ
.กระโดงไฟ
เหมือนเปลวไฟเผาร้อนในกระหายน้ำ
กระโดงน้ำ ให้เชื่อมมัวไม่รู้สึกตัว ทั้งกลางวันกลางคืน
กระโดงแกลบ ผุดเหมือนเม็ดทราย ทั่วตัวให้คันเป็นกำลัง
กระโดงหิน ทำพิษมาก เชื่อมมัวนอนแน่นิ่ง ตัวแข็งนั่งถ่าย อุจจาระแทบไม่ได้












ไข้
กาฬแทรกไข้พิษ




ไข้
ประดง
มี ๘ พวก
จับให้เท้าเย็น มือเย็น ตัวร้อน  กระหายน้ำ  หอบสะอึก  เสียวไปทั่วตัว  เชื่อมมัว  ปวดศีรษะ ปากขม  ลิ้นแห้ง  เพ้อ 
๑.มด ผุดดังยุงกัด ทั่วตัว ให้คัน
๒. ช้าง ผุดดัง ผิวมะกรูด
๓.ประดงควาย ผุดเป็นเงาหนอง
๔.ประดงวัว  ผุดผล
มะยมสุก
๕.ประดงลิง  ผุดเม็ดข้าวสารคั่ว
๖. ประดงแมว ผุดดัง
ตาปลา
๗. ประดงแรด ให้หนังหนาหนังแรด
๘.ประดงไฟ ผุดไข้ระบุชาด  เม็ดแดงยอดดำ
ให้วางยาดับพิษกาฬ และยากระทุ้งพิษ อย่าให้กลับเข้าในข้อในกระดูก  ทำพิษให้คุดในกระดูก ให้กลายเป็น เรื้อน  พยาธิ  ลมจับโปง ประโคมหิน  บวมทุกข้อลำ(ยกเว้นประดง แรด  กลายไปทำพิษให้คันผิวหนัง  หนาดังหนังแรดคลายอยู่ปีหนึ่ง ให้ตกโลหิตกินตับปอด ขาดออกมาตาย)


ผีกาฬ
แทรก
ใน
ไข้พิษ
๑๐
จำพวก
๑.กาฬฟองสมุทร 
เกิดในปากเท่าเม็ด
ถั่วงา ผักปลัง
๒.กาฬเลี่ยมสมุทร  เกิดที่ริมฝีปากเท่าเม็ดถั่วดำ
๓.กาฬทามสมุทร 
บวมยาวตามข้างและต้นลิ้นขากรรไกรไรฟัน
๔.กาฬทามควาย 
 เกิดต้นกรามทั้งสองข้าง  เหมือนตัวปลิง
๕.กาฬไข้ละลอกแก้ว  เกิดท่ามกลางไข้พิษ  เท่าผลผักปลัง จิงจ้อ หรือเป็นเงาหนอง
๖.ไข้กาฬทูม 
บวมตาขากรรไกรทั้งสองข้าง  หรือข้างเดียว
๗.ไข้กาฬทาม 
เหมือนกาฬทูม  แต่บวมถึงคอทั้งสองข้าง
๘.ไข้มะเร็งตะมอย 
ผุดที่ลำตัว  แขน ขา 
แตกออกไม่หายกลายเป็นมะเร็ง
๙.ไข้มะเร็งปากทูม  ผุดที่หลังทั้งสองข้าง  แก้ไม่ดีกลายเป็นมะเร็งปากหมู
๑๐.ไข้มะเร็งเปลวไฟฟ้า  ผุดเท่าวงสะบ้า ยอดเขียว ทำพิษเหมือนถูกไฟให้สลบ








ไข้ทั่วๆไป
 ไข้คด จับชักงอเข้าจนหลังขาดตาย     ไข้แหงน   จับชักแอ่นจนเส้นท้องขาดตาย     ไข้ทั้ง ๒ ประการ  มีอายุวันเดียว
ถ้าเอามือกด  เนื้อ  แขน  ขา ถ้าพองขึ้น  ไม่ตาย   หรือล้วงทวารหนัก  ยังอุ่นอยู่  ไม่ตาย  
๑.ไข้หวัดน้อย   สะบัดร้อนหนาว  ไอ จาม น้ำมูกตก 
.ไข้หวัดใหญ่  สะบัดร้อนหนาว ไอ จาม น้ำมูกตกมาก ปากแห้ง  คอแห้ง
  ไข้หวัดทั้งสอง  เกิดเพราะมันสมอง  นั้นเหลว หยดออกจากจมูก ปะทะกับศอเสมหะ จึงทำให้ไอ ถ้ารักษาไม่คลายกลายเป็น ริดสีดวง มองคร่อ(หวัดลงปอด ) หืด ไอ  และฝี    ประการ    การรักษา ให้ยาลดไข้ตามอาการ พักผ่อน 
 ผ้าคลุมอก
ไข้หวัดทั้งสอง  เป็นเพราะเหตุ ฤดู ๓ ประการ   ร้อน  ฝน  หนาว  เหตุทีเป็นหวัดเพราะ   
ต้องร้อน   ต้องฝน  ต้องน้ำค้าง
.ไข้กำเดาน้อย    ปวดศีรษะ  ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว    
ไข้กำเดาใหญ่    ปวดศีรษะมาก  ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว  คอแห้ง ปากแห้ง  ปากเปรี้ยว  ปากขม    ผุดเป็นเม็ดเท่ายุงกัด  ไม่มียอด  บางทีไอเป็นโลหิตออกปากจมูกให้ชัก (แพทย์อาจ คิดว่าเป็นรักษาไม่ดี เกิดกาฬ ๕ จำพวก พิพิธ,พิพัธ ,มูตร,คูถ สิงคลี)ถ้าไม่ตายภายใน ๗-๙-๑๑ วันกลายเป็นสันนิบาตสำประชวร 
ไข้ ๓  ฤดู
.ไข้ในคิมหันตฤดู
(เดือน ๕...)  ไข้เพื่อโลหิต
.ไข้ในวสันตฤดู  (เดือน๙.๑๐.๑๑.๑๒ไข้เพื่อลม
.ไข้ในเหมันตฤดู
 (เดือน ๑,,,,) ไข้เพื่อกำเดาและดี

ให้ละเมอเพ้อฝัน เป็นหวัดมองคร่อ  หิวหาแรงไม่ได้  เจ็บปาก  มือเท้าเย็น  น้ำลายมาก  อยากกินหวานกินคาว  เป็นฝี พุพอง เจ็บข้อมือข้อเท้า  สะท้านหนาว    แพทย์ต้องวางยาร้อน

หมายเหตุ ในการอ่านสรุปคัมภีร์ ควรอ่านในหนังสือทั้งหมดก่อนอย่างน้อย ๑ รอบ แล้วมาอ่านสรุปจะทำให้เข้าใจ ภาพรวมทั้งหมด
ตัวอย่างข้อสอบในคัมภีร์ตักศิลา
ข้อ 1.    ไข้งูสวัด(ตวัด) มีลักษณะการผุดอย่างไร
                 1.   ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทรายขึ้นมาเป็นแถวๆ มีสัณฐานเหมือนงู เป็นเม็ดพองๆ เป็นเงาหนอง ถ้าหญิงเป็นซ้าย ชายเป็นขวา
                 2.   ผุดขึ้นมาเป็นเม็ดทราบทั่วทั้งตัว มียอดแหลมๆสีดำๆ
                 3.   ผุดขึ้นมาเป็นฝีดาษทั่วทั้งตัว ทำพิษให้สลบ
                 4.   ถูกหมดทุกข้อ
ข้อ 2.    ไข้มีอาการให้ปวดศีรษะมาก ให้ตาแดง ตัวร้อนเป็นเปลว ให้ไอ สะบัดร้อนสะท้านหนาว ให้ปากแห้ง คอแห้ง เพดานแห้ง ฟันแห้ง   ให้เซื่อมมัว ให้เมื่อยไปทั้งตัว จับไม่เป็นเวลา บางทีผุดขึ้นเป็นเม็ด บางทีให้ไอเป็นโลหิตออกทางจมูก ทางปาก บางทีให้ชักเท้ากำ มือกำเท้า เป็นอาการของไข้อะไร 
                  1.   ไข้กำเดาน้อย                                2.  ไข้กำเดาใหญ่
                  3.   ไข้หวัดน้อย                                  4.   ไข้หวัดใหญ่
ข้อ 3. มีลักษณะผุดขี้นมาเป็นหมู่เป็นริ้วคล้ายตัวปลิงทั่วกาย ขนาด 1-3 นิ้ว สีดำเหมือนดินหม้อ เป็นอาการไข้อะไร
                ก.ไข้รากสาดปานเขียว                                        ข.ไข้รากสาดปานแดง
                ค. ไข้รากสาดพนันเมือง                                     ง.ไข้รากสาดสามสหาย   
 ข้อ 4.    ชื่อใดเป็นชื่อไข้ประดง(ไข้กาฬแทรกไข้พิษ)
                  1.   ไข้ประดงช้าง, ม้า, วัว, ควาย                        2.   ไข้ประดงดิน,น้ำ,ลม,ไฟ
                  3.   ไข้ประดงเสือ,สิงห์,กระทิง,แรด                  4.   ไข้ประดงมด,แมว,ลิง, แรด
ข้อ 5.    มีลักษณะผุดขึ้นมาเป็นแผ่นสีแดง ทำพิษให้ปวดศีรษะ เซื่อมมัว จับสะท้านร้อน สะท้านหนาว ตรงกับไข้อะไร
                  1.   ไข้งูสวัด                                                        2.   ไข้เริมน้ำค้าง
                  3.   ไข้ลำลาบเพลิง                                              4.   ไข้กำแพงทะลาย
ข้อ 6.    มีลักษณะผุดขึ้นมาเหมือนตาปลา ทำให้ปวดแสบปวดร้อน เรียกว่าประดงชนิดใด
                  1.   ประดงลิง                                                      2.   ประดงแมว
                  3.   ประดงแรด                                                    4.   ประดงไฟ
ข้อ 7.    ยารักษาไข้พิษไข้กาฬที่แพทย์แผนโบราณนิยมใช้กันมากใช้ยาอะไร ?
                 1.   ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง เหง้าขิงแห้ง
                 2.   รากชิงชี่ รากหญ้านาง รากคนทา รากเท้ายายม่อม รากมะเดื่อชุมพร
                 3.   ใบย่านาง ใบมะขาม เถาวัลย์เปรียง รากฟักข้าว ข้าวสาร
                 4.   ใบมะยม ใบคนทีสอ ใบมะนาว ใบหมากผู้ ใบหมากเมีย
ข้อ 8.    ลักษณะผุดขึ้นตามตัวขนาดเท่าผลปลัง เมล็ดถั่วดำ เมล็ดถั่วเขียว หรือเมล็ดจิงจ้อ มีเงาหนอง ตรงตามข้อใด
                 1.   กาฬทาม                                                        2.   กาฬทูม
                 3.   กาฬละลอกแก้ว                                            4.   ผิดทุกข้อ
ข้อ 9.    อาการผุดขึ้นมาเหมือนผิวมะกรูด ทำพิษให้ปวดร้อน คัน เป็นอาการของไข้ประดงใด
                 1.   ไข้ประดงแรด                                                2.   ไข้ประดงช้าง
                 3.   ไข้ประดงแมว                                                4.   ไข้ประดงลิง
ข้อ 10.    ไข้สังวาลย์พระอินทร์ เป็นไข้พิษในข้อใด
                  1.   ไข้พิษไข้กาฬ 21 จำพวก                               2.   ไข้กาฬแทรกไข้พิษ 8 จำพวก
                  3.   ไข้กาฬ 10 จำพวก                                         4.   ฝีกาฬในไข้พิษ 10 จำพวก
ข้อ 11.   ไข้หนึ่งมีลักษณะผุดขึ้นเป็นเม็ดแดง เป็นแถว หญิงมักขึ้นซ้าย ชายมักขึ้นขวา สะพายแล่ง คล้ายสังวาลย์
               1.   ไข้ข้าวไหม้ใหญ่                                  2.   ไข้กระดานหิน
               3.   ไข้สังวาลย์พระอินทร์                          4.   ไข้ข้าวไหม้เกรียม
ข้อ 12.    ไข้ชนิดใดที่เมื่อเป็นแล้ว มีอายุอยู่ได้เพียงวันเดียว
                  1.   ไข้คด                                               2.   ไข้คดและไข้แหงน
                  3.   ไข้แหงน                                          4.   ไม่มีข้อใดถูก
ข้อ 13.    ไข้ใดกระทำพิษให้ร้อนเป็นที่สุดให้ร้อนเป็นเปลว จับเอาหัวอกดำ จมูกดำ หน้าสีดำเป็นด้าน ข้อใดถูกต้อง
                  1.   ไข้สายฟ้าฟาด                                               2.   ไข้ไฟเดือนห้า
                  3.   ไข้ระบุชาด                                                   4.   ไข้เปลวไฟฟ้า
ข้อ 14.    ไข้ที่มีอาการให้ปวดศีรษะ ตัวร้อนจัด นัยตาแดง อาเจียน นอนไม่หลับ คือไข้อะไร
                  1.   ไข้หวัดน้อย                                                  2.   ไข้หวัดใหญ่
                  3.   ไข้กำเดาน้อย                                                 4.   ไข้กำเดาใหญ่
ข้อ 15.    ไข้ออกหัด มีลักษณะการผุดอย่างไร
                  1.   ผุดขึ้นมาเหมือนฝีดาษทั่วทั้งตัว
                  2.   ผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดข้าวสารหัก
                  3.   ผุดขึ้นมาเหมือนเม็ดทรายทั่วทั้งตัว มียอดแหลมๆ
                  4.   ผิดทุกข้อ
ข้อ 16.    คนไข้สะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ำมูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว ปากขม กินอาหารไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทำพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำมูกแห้ง ท่านเห็นว่าเขาป่วยเป็นอะไร
                  1.   ไข้กำเดาน้อย                                    2.   ไข้กำเดาใหญ่
                  3.   ไข้หวัดใหญ่                                      4.   ไข้สามฤดู
ข้อ 17.    มีลักษณะผุดขึ้นมาดังยุงกัดทั้งตัว ทำพิษให้ปวดแสบปวดร้อน ตามคัมภีร์ตักศิลาตรงตามข้อ
                  1.   ไข้ประดงแมว                                  2.   ไข้ประดงลิง
                  3.   ไข้ประดงมด                                    4.   ผิดทุกข้อ
ข้อ 18.    มีลักษณะผุดขึ้นมาเป็นหมู่เป็นริ้วคล้ายตัวปลิงทั่วกาย ขนาด 1-3 นิ้ว สีดำเหมือนดินหม้อ เป็นอาการของไข้อะไร
                  1.   ไข้รากสาดปานเขียว                         2.   ไข้รากสาดปานแดง
                  3.   ไข้รากสาดพนันเมือง                        4.   ไข้รากสาดสามสหาย
ข้อ 19.    เมื่อเวลาจับไข้ มีอาการจับตัวร้อนเป็นเปลว เท้าเย็นมือเย็น ให้เชื่อมมัว ไม่มีสติสมปฤดี ให้หอบ ให้สะอึก จับตัวแข็งเหมือนท่อนไม้ ให้ลิ้นกระด้างคางแข็ง จับไม่เป็นเวลา ถ้าพระอาทิตย์ ตกพิษก็คลายลง เป็นลักษณะของไข้อะไร
                 1.   ไข้จันทรสูตร                                      2.   ไข้สุริยสูตร
                 3.   ไข้เมตรสูตร                                        4.   ถูกหมดทุกข้อ
ข้อ 20.    ลักษณะการผุดของฝีกาฬ ผุดขึ้นมามีสัณฐานเรียวเล็กเท่าหวายตะคร้า ขนาด 1-2 นิ้ว ผุดขึ้นมาบั้นเอว ก้นกบ ขาทั้งสองข้าง ในที่ลับ ท้องน้อย ราวข้าง ใต้รักแร้ คืออาการของกาฬชนิดใด
                 1.   กาฬแม่ตะงาว                                      2.   กาฬฟองสมุทร
                 3.   กาฬตะบองพะลำ                               4.   กาฬตะบองชนวน
ข้อ 21.    ลักษณะไข้พิษไข้กาฬ จากคัมภีร์ตักศิลา ผุดเป็นแผ่นเท่าใบพุทรา ขึ้นทั่วตัวมีสีดำ อาการจับมือเย็นเท้าเย็น ตัวร้อนเป็นเปลวเพลิง ตาแดงดังโลหิต ปวดศีรษะ ร้อนเป็นตอนเย็นเป็นตอน ไม่เสมอกัน จับรุ่งจนเที่ยง เที่ยงจนค่ำ เป็นลักษณะอาการของไข้
                 1.   ไข้อีดำ                                                  2.   ไข้ปานดำ
                 3.   ไข้ปานแดง                                           4.   ไข้ดานหิน
ข้อ 22.    ให้เชื่อมมัวไปไม่ได้สติ เอารังมดแดงมาเคาะกัดจนทั่วตัวยังไม่รู้สึก หมายถึงอะไร
                 1.   ไข้กระดานหิน                                   2.   ไข้ดานหิน
                 3.   ไข้กระโดงน้ำ                                     4.   ไข้กระโดงแกลบ
23.ไข้ใดกระทำพิษให้ร้อนที่สุดให้ร้อนเป็นเปลว  ให้อกดำ จมูกดำ สีเป็นควัน ข้อใดถูกต้อง
                ก.ไข้สายฟ้าฟาด                                                   ข.ไข้ไฟเดือนห้า
                ค.ไข้ระบุชาด                                                        ง. ไข้เปลวไฟฟ้า
24.ไข้ที่มีอาการให้ปวดศีรษะ สบัดร้อน สบัดหนาว น้ำมูก ไอ  จาม ปากแห้ง คอแห้งคือไข้อะไร
                ก.ไข้หวัดน้อย                                                       ข.ไข้หวัดใหญ่
                ค.ไข้กำเดาน้อย                                                    ง. ไข้กำเดาใหญ่
25.ไข้ออกหัด มีลักษณะการผุดอย่างไร
                ก.ผุดขี้นมาทางฝีดาษทั่วทั้งตัว                           ข.ผุดขี้นมาเหมือนเม็ดข้าวสารหัก
                ค. ผุดขี้นมาเหมือนเม็ดทรายทั่วทั้งตัว มียอดแหลมๆ ง.ผิดทุกข้อ
26.คนไข้สะท้านร้อนสะท้านหนาว ปวดศีรษะ ไอ จาม น้ำมูกตกมาก ตัวร้อน อาเจียน ปากแห้ง ปากเปรี้ยว ปากขม กินอาหารไม่ได้ แล้วแปรไปให้ไอมาก ทำพิษให้คอแห้ง ปากแห้ง ฟันแห้ง น้ำมูกแห้ง ป่วยเป็นอะไร
                ก.ไข้กำเดาน้อย                                                    ข. ไข้กำเดาใหญ่
                ค.ไข้หวัดใหญ่                                                      ง.ไข้สามฤดู
27.ในการพิจารณาการรักษาไข้พิษไข้กาฬ มีข้อห้ามไว้อย่างไรบ้าง ?
                ก.ห้ามวางยารสร้อน รสเผ็ด รสเปรี้ยว
              ข.ห้ามเอาโลหิตออก ห้ามถูกน้ำมัน ห้ามถูกเหล้า ห้ามนวด
                ค.ห้ามประคบ ห้ามกิน ห้ามอาบน้ำร้อน ห้ามรับประทานส้มมีผิวมีควัน กะทิ น้ำมัน
                ง. ถูกหมดทุกข้อ
28. ยาที่ใช้ในการรักษาไข้พิษไข้กาฬ  ขนานที่ 1  คือยาในข้อใด
                ก. ยาแก้ว 5 ดวง                                                    ข. ยา 5 ราก           
                ค.ยากระทุ้งพิษไข้                                                ง. ถูกทุกข้อ


3 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ สำหรับตารางช่วยทำให้เรา จัดวิธีการจำได้ดีขึ้นครับ

    ตอบลบ
  2. ข้อ 26= ไข้หวัดใหญ่

    ตอบลบ