วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คอลลาเจน Collagen

                               
              สายคอลลาเจน triple helix.                             คอลลาเจน ไฟเบอร์
คอลลาเจน Collagen

Collagenหรือ คอลลาเจน  คือ โปรตีนที่อยู่ในชั้น ใต้ชั้นหนังแท้เป็นโปรตีนสำคัญช่วยประสานโครงสร้าง ของเซลล์ผิว เรียกว่าคอลลาเจน ไฟเบอร์ (Collagen Fiber) ให้ความตึง กับผิวหนังชั้นหนังแท้ ทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรง และเรียบเนียน

คอลลาเจน Collagen เป็นสารที่คัดหลั่งมาจากเซลล์ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue cells) โปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบหลัก ของชั้นผิวหนัง ผิวหนังส่วนนอก คอลลาเจน มีลักษณะโครงสร้างครบ 3 สาย (triple helix) ลักษณะพันเป็นเกลียวโดยมีพันธะของเปปไทด์ในสาย ขดกันเป็น โครงร่าง 3 มิติและอยู่ในสภาพชีวภาพ พร้อมจะทำปฏิกิริยาภายในชั้นผิวของร่างกาย

คอลลาเจนมีส่วนในการป้องกันอวัยวะในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่างๆให้อยู่ด้วยกัน ช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี ช่วยให้ข้อต่อต่างๆขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะข้อต่อในการรับน้ำหนักเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆเช่น เดิน วิ่ง และยังช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื่น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนังให้ผิวดูเรียบเนียบกระชับ คนเราจะมีคอลลาเจนหนาแน่นในวัยเด็ก และจะค่อยๆเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา เมื่ออายุมากขึ้นเส้นใยก็จะเสื่อมสลายและทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นสาเหตุของความเหี่ยวย่น ริ้วรอยและความชราของผิวพรรณ

ข้อเท็จจริงประการแรก คอลลาเจนไม่ได้มีเพียงชนิดเดียวแต่ เท่าที่ค้นพบในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 29 ชนิด แต่ละชนิดก็เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อแบบต่างๆ อยู่ในอวัยวะ ตามส่วนต่างๆของร่างกาย อวัยวะภายในร่างกายเอง ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons), กระดูก (bone)ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ทุกๆ เซลล์ในร่างกายไว้ด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นเนื้อเยื่อ คอลลาเจนจึงมีปริมาณถึง 1 ใน 3 ของโปรตีน เพราะเป็นโครงสร้างในส่วนที่มีความยืดหยุ่นของร่างกาย
สารคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน Keratin ซึ่งเป็นเพียง1 ใน 29 ชนิดของคอลลาเจนเท่านั้น
เคราติน มีหน้าที่เป็นโครงสร้างของผิว และทำให้ผิวเต่งตึง อีลาสติน จะมีหน้าที่เสริม ความยืดหยุ่นให้กับผิว  ต้านทานริ้วรอยแห่งวัยบนชั้นผิวที่เกิดขึ้นซึ่งทั้งคู่จะทำงานร่วมกัน

ข้อเท็จจริงประการที่สองคือ การดูดซึมโปรตีนเข้าสู่ร่างกายจำเป็นต้องผ่านกระบวนการย่อยก่อน โปรตีนทุกชนิดจะถูกเอนไซม์หลายชนิดในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กย่อยสลาย จากโปรตีนที่เป็นสายยาวจะถูกเอนไซม์ตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เหลือเพียงหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด คือ กรดอะมิโนแล้วร่างกายจึงดูดซึมกรดอะมิโนเพื่อนำไปประกอบกันขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ 
คอลลาเจนเองก็ต้องถูกย่อยจนกลายเป็นกรดอะมิโน ไม่เหลือสภาพความเป็นคอลลาเจน ไม่แตกต่างจากโปรตีนชนิดอื่นๆ คอลลาเจนไม่ได้ถูกดูดซึมไปทั้งเส้นแล้วตรงไปประกอบเข้าเป็นผิวหนัง
คอลลาเจนของสัตว์แต่ละชนิดล้วนแตกต่างกัน สังเกตได้ง่ายๆ จากเนื้อหมู เนื้อไก่ และเนื้อปลาทะเลน้ำลึก หอยเป๋าฮื้อ จะมีลักษณะและความยืดหยุ่นแตกต่างกัน ดังนั้นความแตกต่างของคอลลาเจนในสัตว์แต่ละชนิดจึงทำให้ ไม่สามารถนำคอลลาเจนจากสัตว์อื่นๆ มาทดแทน หรือรวมเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างผิวหนังของคน


ดังนั้นเมื่อคอลลาเจนไม่สามารถรับจากภายนอกได้ ไม่สามารถรับจากสัตว์อื่นๆ ได้ หากต้องการให้ร่างกายมีคอลลาเจนอย่างเพียงพอ มีเพียงการบำรุงรักษากลไกของร่างกายที่ทำหน้าที่สร้าง คอลลาจนเท่านั้น การบำรุงรักษานั้นเพียงแค่รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้นเอง วัตถุดิบที่จำเป็นในการสังเคราะห์คอลลาเจน เราได้รับอย่างเพียงพอจากอาหารอยู่แล้ว การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นให้กลไกการสร้างคอลลาเจนทำงาน และการพักผ่อนช่วยให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายสึกหรอช้าลง แค่นี้ก็ทำให้ดูอ่อนกว่าวัยไปหลายปีแล้วละค่ะ บล็อกต่อไปจะเป็นการดูแลผิวพรรณเพื่อชะลอการสูญเสียคอลลาเจนค่ะ
             

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น